“Listen! Wisdom is calling out. Reason is making herself
heard. On the hilltops near the road and at the
crossroads she stands.”
Proverbs 8:1-2
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเทคโนโลยีทันสมัยที่ทำให้ผมสามารถเขียนบทความนี้ได้ในขณะมาดูงานการดูแลผู้สูงอายุที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้เอง ทำให้เกิดความคิดในขณะนอนพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง
Monterey
Park, California ที่จะเขียนเรื่องแรงขับเคลื่อน 6 ประการของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต 10 ปีข้างหน้า
ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาที่เพื่อนทาง Internet ท่านหนึ่งได้กรุณาส่งมาให้อ่าน
แรงขับเคลื่อน 6 ประการของการเปลี่ยนแปลง เป็นงานศึกษาของสถาบันเพื่ออนาคต (The
Institute For The Future) หรือ IFTF ซึ่งเป็นองค์กรอิสระไม่แสวงหากำไร
ตั้งอยู่ที่เมือง Palo Alto รัฐ California สหรัฐอเมริกา มีผลงานการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องแนวโน้มและทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลกมามากกว่า
40 ปีแล้ว งานหลักของสถาบันแห่งนี้คือศึกษาเรื่องแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงต่างๆในอนาคตที่จะมีผลต่อสังคมโลก
และพาณิชย์ธุรกิจ งานศึกษาชิ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจาก The University of
Phoenix Research Instituteโดยใช้วิธีการศึกษาหลากหลายรูปแบบ ทั้งจากการรวบรวมข้อมูล
และศึกษาข้อมูลที่รวบรวมได้ จากการศึกษางานวิจัยด้านแนวโน้มต่างๆ(Trend
Research) รวมทั้งการสอบถามความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ
ความคิดเห็นจากนักวิชาการและความคิดเห็นจากผู้บริหารที่มากประสบการณ์หลากหลายด้าน
สุดท้ายเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆและนักวิชาการมาระดมความคิด
จนได้ข้อสรุปร่วมกันออกมาเป็น แรงขับเคลื่อน6 ประการของการเปลี่ยนแปลง
(Six Drivers of Change) ใน 10 ปีข้างหน้า
โลกของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ขนาดห้องเรียน มาจนถึงเวลานี้ที่เราใช้โทรศัพท์มือถืออัจฉริยะในฝ่ามือที่มีความสามารถมากกว่าคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกหลายสิบเท่า
โลกได้มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมาก และสังคมโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเช่นกัน
แต่เราอาจจะไม่ได้สังเกต เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
จนเราไม่ค่อยรู้สึก แต่ถ้าเรามองสังคมโลกอย่างพิจารณา เราจะพบว่าโลกของเรากลายเป็นโลกที่สามารถเชื่อมโยงติดต่อกัน(Global
connectivity) ไปเกือบหมดแล้ว เครื่องจักรเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆกำลังก้าวเข้าสู่ยุคเครื่องจักรอัจฉริยะ
(Smart Machines) และเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคการสื่อสารสมัยใหม่
(New Media) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมานี้ทำให้เราต้องหันมาสนใจศึกษาว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะมีผลต่อการทำงานในอนาคต
และสังคมโลกในอนาคตจะเป็นอย่างไร
การศึกษาเรื่องนี้มุ่งหาวิสัยทัศน์ในอนาคต
(Future
Vision) ก่อนเพื่อจะนำไปสู่การเกิดปัญญาที่มีความหมาย (Meaningful
Insight) แล้วนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลสำเร็จ (Successful
Action) ในอนาคต
ซึ่งเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจรูปแบบการเปลี่ยนแปลง (Patterns of
Change) ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพราะรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้จะมีผลต่อการเกิดสิ่งใหม่ๆอีกหลายด้านเช่น
เกิดเทคโนโลยีรุ่นใหม่(New technology) เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ (New
product) เกิดการปฏิบัติงานแบบใหม่(New practice) เกิดนโยบายใหม่ (New policy) เกิดยุทธศาสตร์ใหม่(New
strategy) เป็นต้น
การศึกษาของ IFTF
สรุปได้ว่า แรงขับเคลื่อน 6 ประการของการเปลี่ยนแปลง
(Six Drivers of Change) ได้แก่
1.การมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้นของมนุษย์ (Extreme
longevity)
การที่มนุษย์มีชีวิตยืนยาวมากขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์
จะทำให้มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในสังคมโลกในอนาคต มีการคาดการณ์ว่า
ในปี 2025
คนอเมริกันที่อายุเกิน 60 ปี จะเพิ่มขึ้นถึง 70%
และมีรายงานจากการศึกษาอื่นที่พยากรณ์ว่าภายในทศวรรษนี้โลกจะมีประชากรที่มีอายุเกิน
60 ปีถึงพันล้านคน การที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed
Countries) มีประชากรผู้สูงอายุ (Aging population) จำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมหลายด้านเช่น
-การประกอบอาชีพ คนมีความจำเป็นต้องทำงานยาวนานมากขึ้นเพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเองตอนอายุ
80-90 ปี เนื่องจากถ้าเกษียณอายุการทำงานที่ 60 ปีระบบเงินสะสมและเงินบำนาญจะไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้นและมีอายุยืนยาวมากขึ้น
ระบบการจ้างงานจึงต้องเปลี่ยนแปลงให้ต้องเกษียณอายุการทำงานที่ยาวขึ้น
เพื่อแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- ระบบครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเพราะพ่อแม่มีอายุยืนยาวมากขึ้นจึงอยู่กับลูกหลานยาวนานมากขึ้นซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำให้ลูกหลานดีใจ
หรือทำให้ลูกหลานหนักใจ โดยเฉพาะสังคมไทยที่พ่อแม่จะอยู่กับลูกหลานจนตาย
ปัญหาครอบครัวและปัญหาสังคมจากการมีผู้สูงอายุจำนวนมากจะเกิดขึ้นตามมา
-ระบบการศึกษาจะเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของผู้เรียนเพราะผู้สูงอายุจำนวนมากต้องการเรียนให้มีความรู้หลายด้านเพื่อเตรียมตัวไว้ประกอบอาชีพได้หลายอย่าง
(Multiple careers) เนื่องจากต้องการทำงานหลังอายุเกิน 60
ปีไปแล้วเพื่อหาเงินดูแลตัวเองที่จะมีอายุยืนยาวขึ้น
เพราะไม่แน่ใจการพึ่งพาระบบสวัสดิการของรัฐบาลหรือการดูแลของลูกหลานเพื่อความปลอดภัยจึงต้องหางานทำให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
-ระบบการบริหารจัดการจะเปลี่ยนแปลงเพราะองค์กรต้องปรับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการใหม่ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
เพื่อผลิตสินค้าและเปิดบริการตามความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ
ระบบการแพทย์ การสาธารณสุข การเดินทาง การท่องเที่ยว การบริการทางสังคม
อุปกรณ์เครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้สูงอายุจำนวนมาก
2. การเติบโตของเครื่องจักรและระบบอัจฉริยะ
(Rise of smart machine and system)
เครื่องจักรและอุปกรณ์และระบบต่างๆที่ใช้ในชีวิตมนุษย์จะเป็นระบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด
ระบบการผลิตในโรงงาน ระบบการทำงานในสำนักงาน ระบบการใช้งานในบ้านจะเป็นระบบอัจฉริยะอัตโนมัติเกือบหมด
ซึ่งทำให้เกิดความมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้นในการทำงาน
เมื่อระบบเครื่องจักรอัจฉริยะอัตโนมัติสามารถทำหน้าที่แทนคนได้มากขึ้นแล้ว
จะเกิดปัญหาตามมาว่าคนจะต้องปรับตัวอย่างไรให้สามารถอยู่กับระบบเครื่องจักรอัจฉริยะอัตโนมัติเหล่านี้
3.โลกที่เป็นคอมพิวเตอร์ (Computational
world)
การนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในชีวิตมนุษย์มากขึ้นทำให้มีการใช้ระบบSensor
มากขึ้น จนสามารถเก็บข้อมูลของวิถีชีวิตมนุษย์ในกิจกรรมต่างๆได้เกือบหมด
เมื่อนำข้อมูลที่บันทึกเป็นรหัส (Code) ไปถอดรหัส (Decode)
และประมวลผลจะสามารถสร้างโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ใช้ได้ทั้งโลก
ชีวิตมนุษย์จึงต้องปรับตัวให้เชื่อมโยงเข้ากับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพราะเกือบทุกกิจกรรมที่มนุษย์ทำต้องอาศัยข้อมูล
(Database) ประกอบในการตัดสินใจ ทุกอย่างสามารถโปรแกรมได้ (Programmable)
4.ระบบการสื่อสารใหม่ (New
media ecology)
การสื่อสารบนพื้นฐานเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะพัฒนาไปจนแทบเรียกได้ว่าเป็นภาษาการสื่อสารใหม่ของมนุษย์
(New
language of communication) เพราะเราสามารถสื่อสารได้ทั้งระบบ Video
ระบบ Digital animation ระบบAugmented
reality และระบบ Visual communication ระบบการสื่อสารหลายรูปแบบนี้ทำให้คนจำนวนมากสามารถสื่อสารได้พร้อมๆกันทั่วโลก
ชีวิตการทำงาน ชีวิตครอบครัว กิจกรรมสังคม ระบบการบริหารจัดการ ระบบการปกครอง
ระบบการบริการ จะกลายเป็นระบบ online หมด คนมากมายจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้
(ขณะนี้ก็สามารถเข้าถึงได้จนแทบจะไม่มีความลับกันอยู่แล้วครับ)
5.โครงสร้างองค์กรขนาดใหญ่ (Superstructed
organizations)
เพราะระบบการสื่อสารและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ทำให้ระบบอัจฉริยะอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทในชีวิตการทำงานมากขึ้น
โครงสร้างองค์กรจึงต้องเปิดกว้างให้มีความหลากหลายเพื่อให้คนจำนวนมากเข้ามามีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น
เนื่องจากประชากรทั้งโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลได้พร้อมกันหมด (ตัวอย่างเช่น สินค้าที่ขายกันทาง internet ขณะนี้มีคนใช้บริการเป็นล้านๆคนแล้ว
ต่อไปในอนาคตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอาจเปิดการสอนทาง internet
และมีคนสนใจลงทะเบียนเรียนทั่วโลกเป็นจำนวนหมื่นจำนวนแสนคนก็เป็นได้
เพราะแม้แต่ท่าเต้นกัมนันสไตล์ของหนุ่มเกาหลีก็มีคนนับร้อยล้านคนเข้าไปดูทาง internet
แล้ว)
6.โลกที่เชื่อมโยงติดต่อกัน (Global
connected world)
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศกำลังพัฒนาในทวีปเอเชีย
เช่น จีน อินเดีย เกาหลี รัสเซีย ที่มีประชากรจำนวนมาก
ทำให้ประเทศพัฒนาแล้วทั้งในทวีปอเมริกาและทวีปยุโรป ต้องปรับตัววิ่งไปเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคนี้เพื่อรองรับความต้องการของประชากรส่วนใหญ่ของโลก
ซึ่งในอดีตมีกำลังซื้ออย่างจำกัด แต่เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ได้เปลี่ยนสถานะเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อมหาศาลและในอนาคตคนในประเทศเหล่านี้มีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากมีความรู้และกำลังทรัพย์มากขึ้น
จนประเทศพัฒนาแล้วทั้งในทวีปอเมริกา และยุโรปต้องเชื่อมโยงการติดต่อเข้ามาหาภูมิภาคนี้มากขึ้นเพื่อลงทุนค้าขายทำให้ระบบการติดต่อทางธุรกิจการค้าการและบริการสามารถเชื่อมโยงกันทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
Albert Einstein กล่าวว่า “The true sign of intelligence is not knowledge but imagination” และ “It is not that I am
so smart, it’s just that I stay with problems longer” สัญญาณที่แท้จริงของปัญญาไม่ใช่การมีความรู้แต่คือการมีจินตนาการ
และไม่ใช่เพราะข้าพเจ้ามีความฉลาดมากมาย แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าอยู่กับปัญหายาวขึ้น
หวังว่าเราจะไม่มองเรื่องแรงขับดันการเปลี่ยนแปลงในอนาคตนี้อย่างนิ่งเฉย
เพราะพวกเราทุกคน
เป็นส่วนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นใน 10 ปีข้างหน้านี้ และผมหวังว่าชาวไทยจะไม่ลำบากทุกข์ยากจนเกินไปM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น