“A wise son makes his father proud of him; a foolish one brings his mother grief.”
Proverbs 10:1
เหนือชั้นจริงๆคนที่คิดเอานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe แปลงร่างเป็น Mario มุดลงท่อสีเขียวทะลุดินของ Doraemon จากประเทศญี่ปุ่นนำลูกบอลสีแดงที่เป็นสัญญลักษณ์ของกีฬาประเภทต่างๆไปโผล่กลางพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ Rio de Janeiro เพื่อรับช่วงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา Olympic Games ครั้งต่อไปที่กรุง Tokyo ประเทศญี่ปุ่นในปี 2020 ทีมงานที่คิดสร้างเรื่องชุดนี้ของญี่ปุ่นฉลาดมาก ที่ใช้ตัวการ์ตูนญี่ปุ่นที่คนรู้จักกันดีทั่วโลกและสถานที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นเป็นหลังฉากแนะนำกีฬาประเภทต่างๆ เป็นการแนะนำสถานที่และความเป็นญี่ปุ่นที่พร้อมในการจัดเตรียมการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไปของประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวสั้นๆแค่นาทีแต่ฉกฉวยความสนใจคนทั่วโลกที่กำลังเฝ้าชมการถ่ายทอดพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกไปเต็มๆ จนทำให้เรื่อง The Cool Japan ดังขึ้นมาเป็นที่สนใจของคนทั้งโลก
ความจริงเรื่อง The Cool Japan นี้ เป็นแนวความคิดที่ประเทศญี่ปุ่นได้คิดไว้ตั้งแต่ปี 2002 แล้ว เมื่อประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซานิ่งไม่เติบโตกว่าสิบปี จนเรียกว่าเป็นทศวรรษที่สูญเสียไป (the lost dacade) ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากการขายสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นรายได้หลักทำเงินให้ประเทศญี่ปุ่นมาโดยตลอด เช่น รถยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ถูกประเทศจีน และเกาหลีใต้ แย่งตลาดไป สินค้าญี่ปุ่นขายได้น้อยลงทำให้รายได้ของประเทศลดลง เนื่องจากคนญี่ปุ่นเป็น คนมีระเบียบชีวิต มีการคิดวางแผนอนาคต และมีอายุยืนยาวมากขึ้น จึงมีความวิตกกังวลมาก กลัวจะไม่มีเงินใช้ยามแก่ คนญี่ปุ่นจึงเอาแต่อดออมเก็บเงินฝากธนาคารเพื่อเอาไว้ใช้ในอนาคต ไม่ยอมใช้เงินจับจ่ายใช้สอยโดยไม่จำเป็น ทำให้การบริโภคในประเทศถดถอย การขายสินค้าภายในประเทศไม่เติบโต ประกอบกับการขายสินค้าไปต่างประเทศก็ไม่เติบโต จึงทำให้การลงทุนไม่เติบโตด้วย ประเทศญี่ปุ่นจึงต้องคิดแก้ไขโดยหาทางออกจากกรอบเศรษฐกิจเดิมที่อาศัยฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม มาเป็นแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ คือการเอาสิ่งดีที่ประเทศญี่ปุ่นมีอยู่แล้วในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เรียกแนวคิดใหม่นี้ว่า The Cool Japan และใช้เป็น Brand ของการ Promote แนวคิดใหม่นี้ด้วย
The Cool Japan เป็นการสร้างอำนาจใหม่ทางเศรษฐกิจที่ใช้ความอ่อนโยนทางวัฒนธรรมในการผลิตสินค้าและบริการซึ่งแตกต่างจากอำนาจทางเศรษฐกิจเดิมซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหนักใช้เครื่องจักรกลในกระบวนการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม เมื่อ The Cool Japan ใช้วัฒนธรรมที่อ่อนโยนมาเป็นสินค้าและบริการสร้างรายได้ สร้างอำนาจทางเศรษฐกิจ จึงเรียกว่าแนวคิดใหม่นี้ว่าเป็นอำนาจเศรษฐกิจแบบ Soft power คือขายสินค้าและ บริการที่สร้างความรู้สึกตอบสนองทางด้านอารมณ์ (Emotional fufilment) ซึ่งต่างจากสินค้าอุตสาหกรรม พวกเครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยตอบสนองทางด้านวัตถุ (Material fulfilment) กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ที่รับผิดชอบการขับเคลื่อน The Cool Japan ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากขายสินค้าและบริการบนพื้นฐานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นภายใต้โครงการ The Cool Japan ได้ถึง 900 พันพันล้านเยน (¥900 trillion) ในปี 2020.
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น เรียกการสร้าง The Cool Japan ซึ่งเป็น Brand ใหม่ของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative industries) คือการรวมเอาอัตลักษณ์ต่างๆของประเทศญี่ปุ่นมาส่งเสริม (Promote) สร้างภาพลักษณ์ (Image)ใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่า (Value added) ให้เป็นสินค้าและบริการที่ดูดีมีคุณค่า ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ (Cool) แล้วจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่าย (Distribution channel) ใหม่ ทำให้สินค้าและบริการขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จุดประสงค์เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศ
สินค้าและบริการในมิติของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะรวมเอาวัฒนธรรมทุกอย่างของญี่ปุ่นตั้งแต่ หนังสือการ์ตูน (Manga) ภาพยนต์การ์ตูน (Anime) งานศิลปะ หัตถกรรมพื้นบ้าน อาหาร แฟชั่น การท่องเที่ยว ละคร ดนตรี กีฬา ฯลฯ ของญี่ปุ่นมาสร้างสรรค์ใหม่ ใส่ภาพลักษณ์ และเพิ่มมูลค่า ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก กลายเป็นสินค้าและบริการที่ขายไปได้ทั่วโลก
ในปีงบประมาณ 2011 กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินสนับสนุนการบุกตลาดต่างประเทศเพื่อแนะนำและส่งเสริมสินค้าและบริการภายใต้โครงการ The Cool Japan ไปยัง ประเทศ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ บราซิล อิตาลี และอินเดีย โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอกชนระดับ SME นำสินค้าและบริการไปเปิดตัวและหาคู่ค้าในต่างประเทศ
ตัวอย่างยุทธศาสตร์ The Cool Japan ที่เอาวัฒนธรรมมาแปรรูปเป็นสินค้าและบริการ เช่น
- เอาตัวการ์ตูนต่างๆของญี่ปุ่นที่คนชื่นชอบมาทำตุ๊กตา หรือเป็นสินค้าที่มีรูปการ์ตูนติด แล้วขายตามร้านค้าย่านถนน Harajuku ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดิน Shopping
- แฟชั่น คือส่งเสริมสินค้าเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ โดยการจัดงานแสดงแฟชั่นโชว์ย่าน Giza และ Shibuya ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าใหญ่และร้านค้าจำหน่ายสินค้าระดับบนมากมาย
-
- อาหาร แนะนำอาหารญี่ปุ่น ผ่านรายการทำอาหารทางโทรทัศน์ จัดชั้นเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่น แนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังระดับMichelin Guide ส่งเสริมการรับประทาน Sushi และการใช้ ซีอิ๊วญี่ปุ่นในการปรุงอาหาร
-
- วิถีชีวิต แนะนำผ่านทางรายการโชว์รูปแบบต่างๆทางโทรทัศน์ เรื่องราวในละคร สารคดี และ ภาพยนต์ญี่ปุ่น สถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นจัดทำสารคดีเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นหลายร้อย ตอนจัดฉายไปตามสถานีโทรทัศน์ทั่วโลก
-
- การท่องเที่ยว จัดรายการส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งสถานที่เล่นสกีและดำน้ำ ให้ประโยชน์ตกแก่ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศเช่นบริษัททัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า
-
ยุทธศาสตร์ตัวจริงของ The Cool Japan นั้นละเอียดมาก ผมแค่สรุปเอาตามที่เข้าใจมาให้ดูเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆครับ ท่านที่สนใจอยากรู้มากกว่านี้ สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ http://www.meti.go.jp/english/policy ครับ โปรดสังเกตว่าทั้งหมดทั้งมวลของยุทธศาสตร์นี้เน้นการทำกำไรให้ท้องถิ่น และเน้นให้เกิดการจ้างงาน และการบริโภคภายในประเทศญี่ปุ่น
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อชวนให้พวกเราหันกลับมาคิดถึงประเทศไทยครับ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับต้นๆของโลกอย่างประเทศญี่ปุ่น ยังต้องปรับความคิด ปรับยุทธศาสตร์ชาติ คนในประเทศต้องปรับตัว เพื่อทำให้ประเทศชาติอยู่รอด คนญี่ปุ่นที่เคยหยิ่งไม่ค่อยยินดีต้อนรับคนต่างชาติมากนัก สมัยก่อนใครจะไปประเทศญี่ปุ่นต้องขอ Visa กันอย่างยากเย็น เวลานี้ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ต้องขอ Visa เข้าประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปใช้เงินในประเทศญี่ปุ่นแน่นขนัด พวกเราคนไทยก็แห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างสนุกสนาน คนญี่ปุ่นต้องปรับตัวยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยว แม้จะรู้สึกรำคาญอยู่ในใจก็ตาม แต่ความรักชาติ ทำให้เขาต้องเสียสละเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ The Cool Japan ของประเทศ
การส่งเสริมยุทธศาสตร์ The Cool Japan เกิดผลทำให้เกิดกระแสชื่นชอบญี่ปุ่นในวัยรุ่นทั่วโลก เห็นได้จากวัยรุ่นชาวไทยนิยมชื่นชอบวงดนตรี นักร้อง ดาราญี่ปุ่น เสื้อผ้า ใบหน้า ทรงผม ก็ทำและแต่งตัวตามวัยรุ่นญี่ปุ่น เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ ของใช้กระจุกกระจิกก็ใช้ของญี่ปุ่น แม้แต่ท่าทางก็ทำคิกขุอโนเนะตามวัยรุ่นญี่ปุ่น กินอาหารและขนมญี่ปุ่น อ่านการ์ตูนเล่นเกมส์ญี่ปุ่น และไม่สนใจเรียนภาษาไทยแต่เรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น
เป็นความจริงที่น่าเสียดาย ที่ประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่ดีมีคุณค่ามากอยู่แล้ว และสามารถนำมาเป็น The Cool Thailand ได้อย่างสบายๆ เรามีของอยู่ในมือแต่ยังไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขนาดยังไม่มียุทธศาสตร์ ระดับชาติที่ส่งเสริมเรื่องวัฒนธรรมไทยอย่างจริงจัง ยังไม่มีวาระแห่งชาติแบบ The Cool Japan ของประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย เรายังมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวประเทศไทยปีละ 30ล้านคน ทำรายได้ให้ประเทศเป็นกอบเป็นกำ ในขณะที่การส่งออกของประเทศไทยถดถอยเพราะขีดความสามารถของ ไทยไม่ได้พัฒนาเพิ่มเติมให้เข้มแข็ง จึงเริ่มแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ค่อยได้ ถ้าเราเอาวัฒนธรรมไทยมาสร้างสรรค์ใหม่ ใส่นวัตกรรมใหม่ให้ใสปิ๊งดูเจ๋งจ๊าบ ส่งเสริมให้เป็นสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แล้วรัฐบาล ส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ไทยให้ go inter อย่างมียุทธศาสตร์ มีโครงการสนับสนุนอย่างชัดเจน จัดช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการที่ทันสมัยสอดประสานกันอย่างเป็นรูปธรรมแบบที่ประเทศญี่ปุ่นทำ เราจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล The Cool Thailand ก็สามารถสร้างกระแสให้วัยรุ่นทั้งโลกหันมาหัดมวย ไทย เตะตระกร้อ กินผัดไทย กล้วยทอด ดูหนังไทย ชอบนวดแผนโบราณ และมาเที่ยวเมืองไทยเยอะขึ้น เพราะจริงๆแล้ว ประเทศไทยเรามีทั้ง วัฒนธรรม โบราณสถาน สถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติป่าเขา ทะเล ให้นักท่องเที่ยว สัมผัสเรียนรู้อย่างมากมาย และที่สำคัญถ้าคนไทยยังคงรักษาความมีน้ำใจไมตรีต่อคนต่างชาติ ยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยเหลือเกื้อกูลนักท่องเที่ยว จะเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้คนต่างชาติให้ชื่นชอบเมืองไทยมากขึ้น
Mahatma Gandhi กล่าว่า “A nation's culture resides in the hearts and in the soul of its people.” วัฒนธรรมของชาติอยู่ในหัวใจและจิตวิญญาณของคนในชาติ
Dalai Lama กล่าวว่า “In order to carry a positive action we must develop here a positive vision.” เพื่อที่จะนำให้เกิดการกระทำด้านดีในเวลาข้างหน้า เราต้องพ้ฒนาตัวเราให้มีวิสัยทัศน์ที่ดีในวันนี้
อยากเชิญชวนให้คนไทยหันหน้ามาคิดดีต่อกันในวันนี้ เพื่อจะได้ช่วยกันทำความดีให้ประเทศชาติต่อไป
ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันก่อนที่เราจะสร้าง The Cool Thailand ครับ
ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันก่อนที่เราจะสร้าง The Cool Thailand ครับ
แหล่งที่มา: www.meti.go.jp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น