“Righteous
people will always have security, but the wicked will not survive in the land.” Proverbs
10:30
ในตอนที่แล้วได้เขียนรากฐานสำคัญของความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปแล้ว
6
ประการ และได้เรียนไว้ว่ารากฐานสำคัญอีก 6 ประการจะเขียนต่อในฉบับต่อไป
จึงขอนำเสนอต่อดังนี้
7. Labor market
efficiency
ประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของตลาดแรงงานเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขัน
เพราะประเทศที่มีแรงงานความรู้และทักษะสูง มีระบบการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี
ผลผลิตจากการทำงานย่อมออกมาดี มีคุณภาพ ทำให้สินค้าและบริการสามารถขายได้ดีในตลาด
สร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่อง และถ้าสามารถควบคุมให้มีต้นทุนแรงงานไม่สูงจนเกินไป
จะสามารถดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
ในยุคที่เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แรงงานจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวสูงด้วย
เพราะถ้าแรงงานปรับตัวตามระบบเศรษฐกิจไม่ทัน จะเกิดปัญหาคนตกงานเพราะไม่สามารถทำงานที่ตลาดต้องการได้
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งกลับขาดแคลนแรงงานเพราะไม่มีจำนวนแรงงานเพียงพอกับความต้องการ
อย่างที่ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานช่างฝีมือในเวลานี้ นอกจากเรื่องการผลิตแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแล้ว
ยังต้องดูแลเรื่องความเท่าเทียมของแรงงานชายหญิง เรื่องแรงงานเด็ก เรื่องสิทธิและสิ่งแวดล้อมการทำงานของแรงงาน
ซึ่งเป็นประเด็นที่นานาชาติสนใจอีกด้วย
8. Financial
market development
การพัฒนาตลาดการเงิน
เป็นอีกรากฐานที่สำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เพราะการเคลื่อนไหวของทุนและการทำธุรกิจต้องอาศัยเครื่องมือในตลาดเงินและตลาดทุนในการทำธุรกรรมทางการเงิน
เช่น การลงทุนต้องอาศัยระบบการเงินที่มีประสิทธิภาพ คือ มีแหล่งเงินทุนที่มาจากเงินออมภายในประเทศ
กับ เงินทุนจากนอกประเทศที่ไหลเข้าและไหลออกประเทศ ทำให้ประเทศสามารถนำแหล่งเงินที่มีนี้มาสร้างประโยชน์ให้เกิดผลในระบบเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน
ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพของตลาดเงินในเรื่อง การเข้าถึงแหล่งเงินทุน
อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม กลไกควบคุมตลาดหุ้น กฏหมายที่เอื้อต่อการร่วมทุน
ความแข็งแกร่งของระบบการธนาคาร และเครื่องมือทางการเงินอื่นๆที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีระบบที่โปร่งใส เชื่อถือได้ มีธรรมาภิบาล คุ้มครองผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ลงทุนด้วย
9. Technological
readiness
ความมีพร้อมของเทคโนโลยีในประเทศ
เป็นรากฐานที่สำคัญในปัจจุบันที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพราะเทคโนโลยีช่วยทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้น
รวมทั้งช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น ทำให้ประเทศสามารถแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว
โครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศจึงต้องมีพร้อมใช้ และมีครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ
เพื่อเอื้อต่อการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมและการบริการของบริษัทที่ลงทุนทำธุรกิจทั่วประเทศ
สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการคือ การให้บริการด้านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ การเข้าถึงเทคโนโลยีไม่ยุ่งยาก
หรือมีขั้นตอนมาก และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเทคโนโลยีต้องไม่แพงเกินไปเพราะจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูง
และทำให้ต้นทุนในการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆสูงตามไปด้วย
10. Market size
ขนาดของตลาด มีผลต่อผลผลิตเพราะการผลิตในจำนวนมากคุ้มค่ากว่า
(Economy
of scale) ตลาดที่ใหญ่จูงใจต่อการลงทุน มีอำนาจการต่อรองสูง เพราะการผลิตโดยทั่วไปต้องอาศัยความต้องการของตลาดภายในประเทศ
(Domestic markets) เป็นเบื้องต้น ก่อนจะขยายไปยังตลาดนานาชาติ (International
markets) และจากการที่จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้
ขนาดตลาดของประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศจะมีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งจะเป็นข้อดีต่อการพัฒนาความสามารถของแต่ละประเทศ
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ประเทศใดสามารถใช้ประโยชน์จากขนาดของตลาดที่โตขึ้นให้เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศตนเพื่อพัฒนาความสามารถของประเทศให้สูงขึ้น
11. Business
sophistication
ความช่ำชองหรือความชำนาญการในการทำธุรกิจและวิธีการทำธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศมีผลต่อความมีประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ
ซึ่งส่งผลไปสู่การพัฒนาความสามารถของประเทศ เรื่องความช่ำชองในการทำธุรกิจนี้มีปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องคือ
คุณภาพในการวางแผนยุทธศาสตร์ (Strategies) และการดำเนินการ
(Operations) ของเครือข่ายธุรกิจ (Business networks) และคุณภาพของบริษัทธุรกิจ (Business firms)ในประเทศ ประเทศที่มีเครือข่ายธุรกิจอุตสาหกรรมที่เรียกว่า
Cluster ที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณของห่วงโซ่ธุรกิจ
(Supply chain) ซึ่งมีตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ
และปลายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการสนับสนุนและส่งเสริมซึ่งกันและกันใน Cluster
จะสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อกัน เช่นเดียวกับทางด้านบริษัทธุรกิจ
ถ้าบริษัทธุรกิจมียุทธศาสตร์และการดำเนินการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
จะสามารถพัฒนา Brand สินค้า พัฒนาการตลาด
พัฒนากระบวนการผลิตให้มีความก้าวหน้าขึ้น สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขี้น ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศดีขึ้น
12. Innovation
นวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากการมีฐานความรู้เทคโนโลยีใหม่
หรือ จากการไม่มีฐานความรู้ทางเทคโนโลยี (Non-technological
knowledge) ก็ได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องความรู้ทักษะ วิธีทำงาน
(Know how) ที่ถ่ายทอดฝังอยู่ในองค์กรและพัฒนาเป็นนวัตกรรมเฉพาะขององค์กร
แต่การที่จะทำให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันได้จะต้องเน้นไปในด้านนวัตกรรมที่มาจากฐานความรู้เทคโนโลยี
(Technological innovation)
เพราะการพัฒนาปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ในแง่เศรษฐศาสตร์จะให้ผลตอบแทนลดลงเรื่อยๆ (Diminishing returns) ในระยะยาว ดังนั้นการสร้างผลผลิตของประเทศจำเป็นต้องมีนวัตกรรมจากเทคโนโลยี่เข้ามาช่วยเสริม
เพื่อช่วยให้ประเทศสามารถดำรงความสามารถในการแข่งขันได้ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
(Higher value added)
ซึ่งหมายความว่าประเทศจะต้องมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งภาครัฐบาลและภาคบริษัทเอกชนเพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี่ใหม่
ประเด็นเรื่องการวิจัยและพัฒนานี้ เกี่ยวข้องกับความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องลงทุนและทำงานร่วมกัน
และให้การพิทักษ์ทรัพย์สินทางปัญญา (Protection of intellectual property) การวัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เขาพิจารณาอัตราส่วนเงินลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาด้วยเพราะเป็นรากฐานที่สำคัญประการหนึ่งของความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
รากฐานสำคัญที่เป็นปัจจัยในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ได้กล่าวมาทั้ง
12
ประการนี้ ทุกรากฐานมีความสัมพันธ์เกี่ยวพันทั้งหมด (Interrelated)
และส่งผลต่อกัน การมีรากฐานที่อ่อนแอรากฐานหนึ่งจะส่งผลลบต่อรากฐานอื่นๆด้วย
เช่น ความแข็งแกร่งของรากฐานด้านนวัตกรรมจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้ารากฐานการศึกษาและการพัฒนาแรงงานอ่อนแอ
รากฐานการพัฒนาด้านเทคโนโลยีจะไม่แข็งแกร่งถ้ารากฐานด้านการเงิน
และรากฐานด้านการตลาดไม่เข้มแข็งเป็นต้น
ดังนั้นการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศจึงต้องพัฒนารากฐานทั้ง 12 เรื่องไปพร้อมๆกัน แต่การวัดความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศเขาได้คำนึงถึงระดับของการพัฒนา
(Stages of development) ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศด้วย
ดังนั้นจึงได้แบ่งกลุ่มประเทศเป็น 3 ระดับพัฒนา และประเทศที่อยู่ในช่วงระหว่างการพัฒนาจากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหนึ่งอีก 2 กลุ่ม
โดยมีน้ำหนักตัวชี้วัดที่แตกต่างกันดังนี้
ระดับ 1
Stage 1
|
กำลังเปลี่ยนจากระดับ 1 ไประดับ 2
Transition from Stage 1 to stage
2
|
ระดับ 2 ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ Stage
2 Efficiency-driven
|
กำลังเปลี่ยน
จากระดับ 2 ไประดับ 3
Transition from Stage
2 to stage 3
|
ระดับ3 ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
Stage 3 Innovation-driven
|
|
รายได้ประชาชาติต่อหัว
(เหรียญสหรัฐ)
GDP
per capita (US$) thresholds*
|
<2,000
|
2,000–2,999
|
3,000–8,999
|
9,000–17,000
|
>17,000
|
น้ำหนักของความต้องการพื้นฐาน
Weight
for basic requirements
|
60%
|
40–60%
|
40%
|
20–40%
|
20%
|
น้ำหนักของประสิทธิภาพของสิ่งที่ส่งเสริม
Weight
for efficiency enhancers
|
35%
|
35–50%
|
50%
|
50%
|
50%
|
น้ำหนักของนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของปัจจัย
Weight
for innovation and sophistication factors
|
5%
|
5–10%
|
10%
|
10–30%
|
30%
|
เมื่อได้ใช้เกณฑ์และให้น้ำหนักตามตารางข้างบนนี้แล้ว
จะสามารถแบ่งกลุ่มระดับประเทศได้ดังนี้
ระดับ
1:ใช้ปัจจัยขับเคลื่อน
Stage
1: Factor-driven
(37
economies)
|
กำลังเปลี่ยนจากระดับ 1 ไประดับ 2
Transition
from stage 1 to stage 2
(16 economies) |
ระดับ
2:ใช้ประสิทธิภาพขับเคลื่อน
Stage
2: Efficiency-driven
(30 economies)
|
กำลังเปลี่ยนจากระดับ 2 ไประดับ 3
Transition
from stage 2 to stage 3 (24 economies)
|
ระดับ3:ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อน
Stage
3: Innovation-driven
(37
economies)
|
Bangladesh
|
Algeria
|
Albania
|
Argentina
|
Australia
|
Burkina
Faso
|
Angola
|
Armenia
|
Bahrain
|
Austria
|
Burundi
|
Azerbaijan
|
Bulgaria
|
Barbados
|
Belgium
|
Cambodia
|
Bhutan
|
Cape
Verde
|
Brazil
|
Canada
|
Cameroon
|
Bolivia
|
China
|
Chile
|
Cyprus
|
Chad
|
Botswana
|
Colombia
|
Costa
Rica
|
Czech
|
Republic
Côte d'Ivoire
|
Gabon
|
Dominican
Republic
|
Croatia
|
Denmark
|
Ethiopia
|
Honduras
|
Egypt
|
Hungary
|
Estonia
|
Gambia
|
Iran
Islamic Rep.
|
El
Salvador
|
Kazakhstan
|
Finland
|
Ghana
|
Kuwait
|
Georgia
|
Latvia
|
France
|
Guinea
|
Libya
|
Guatemala
|
Lebanon
|
Germany
|
Haiti
|
Moldova
|
Guyana
|
Lithuania
|
Greece
|
India
|
Mongolia
|
Indonesia
|
Malaysia
|
Hong
Kong SAR
|
Kenya
|
Philippines
|
Jamaica
|
Mauritius
|
Iceland
|
Kyrgyz
Republic
|
Saudi
Arabia
|
Jordan
|
Mexico
|
Ireland
|
Lao PDR
|
Venezuela
|
Macedonia
|
FYR
Oman
|
Israel
|
Lesotho
|
Montenegro
|
Panama
|
Italy
|
|
Madagascar
|
Morocco
|
Poland
|
Japan
|
|
Malawi
|
Namibia
|
Russian
|
Federation
Korea
|
|
Rep.
Mali
|
Paraguay
|
Seychelles
|
Luxembourg
|
|
Mauritania
|
Peru
|
Suriname
|
Malta
|
|
Mozambique
|
Romania
|
Turkey
|
Netherlands
|
|
Myanmar
|
Serbia
|
United
Arab Emirates
|
New
Zealand
|
|
Nepal
|
South
Africa
|
Uruguay
|
Norway
|
|
Nicaragua
|
Sri
Lanka
|
Portugal
|
||
Nigeria
|
Swaziland
|
Puerto
Rico
|
||
Pakistan
|
Thailand
|
Qatar
|
||
Rwanda
|
Timor-Leste
|
Singapore
|
||
Senegal
|
Tunisia
|
Slovak
Republic
|
||
Sierra
Leone
|
Ukraine
|
Slovenia
|
||
Tajikistan
|
Spain
|
|||
Tanzania
|
Sweden
|
|||
Uganda
|
Switzerland
|
|||
Vietnam
|
Taiwan
China
|
|||
Yemen
|
Trinidad
and Tobago
|
|||
Zambia
|
United
Kingdom
|
|||
Zimbabwe
|
United
States
|
เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยกัน ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มระดับ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ใช้ความมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในกลุ่มนี้มีประเทศอินโดนีเซีย อยู่ด้วย ส่วนประเทศมาเลเซีย หนีประเทศไทยขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่กำลังพัฒนาขึ้นไปอยู่ในระดับ 3 ซึ่งใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันมีเพียงประเทศสิงคโปร์ที่ขึ้นไปนอนรออยู่แล้ว ส่วนประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาจากระดับ 1 ขึ้นไปอยู่ระดับ 2 ประเทศอื่นๆในกลุ่มได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ยังอยู่ในกลุ่มระดับที่ 1 ที่ใช้ปัจจัยพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนประเทศบูรไน ไม่ปรากฏรายชื่อในการศึกษานี้
David Cameron นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “More of the same will
just produce more of the same: less competitiveness, less growth, fewer jobs.” การทำอะไรแบบเดิมๆเพิ่มขึ้นจะเพียงสร้างสิ่งเดิมๆมากขึ้นเท่านั้น ความสามารถในการแข่งขันที่น้อยลง
ทำให้เติบโตน้อยลง และการจ้างงานน้อยลง
ประเทศไทยจะพัฒนาความสามารถในการแข่งขันได้ดีหรือไม่
อยู่ที่คนไทยทุกคนจะช่วยกันหรือไม่ครับ
ขอบคุณที่อ่านและส่งต่อให้เพื่อนอ่านครับ
http:somchaiblessings.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น