วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

Salute Lee Kuan Yew



 “You won’t be afraid of sudden trouble; you won’t be fear the ruin that comes to the wicked, because the Lord will keep you safe. He will keep you from being trapped.”                                           Proverbs 3: 25-26

งานรัฐพิธีศพของท่าน Lee Kuan Yew นายกรัฐมนตรีก่อตั้งของสิงคโปร์ (The founding Prime Minister of Singapore.) ผ่านไปแล้วด้วยขบวนศพเกียรติยศที่สง่างามและสวยงามสมเกียรติ ท่ามกลางความอาลัยรักของชาวสิงคโปร์ และผู้นำประเทศต่างๆที่รู้จักเขา
ขอนำวิสัยทัศน์ ความคิด ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ความเสียสละ ความรักประเทศ ความดีงาม ของท่าน ลี กวน ยู ที่ท่านได้ตัดสินใจลงมือทำ และปฏิบัติ ในฐานะผู้นำประเทศสิงคโปร์มาเป็นบทเรียนรู้สำหรับคนไทย การเสียชีวิตตามอายุขัยของท่านผู้นำประเทศสิงคโปร์ ควรเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังทั่วโลกได้ศึกษาเรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจในการทำดี เสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า แน่นอนว่า ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู ต้องมีด้านที่ไม่ค่อยเป็นที่พึงพอใจของประชาชนอยู่บ้าง เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่ต้องมีจุดอ่อนของชีวิต แต่ไม่มีประโยชน์ในการนำสิ่งเหล่านั้นมากล่าวย้ำอีก เพราะมันกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว  
 “But I say to you: here we make the model multi-racial society. This is not a country that belongs to any single community: it belongs to all of us. You helped built it; your fathers, your grandfathers helped build this… Over 100 years ago, this was a mud-flat, swamp. Today, this is a modern city. Ten years from now, this will be a metropolis. Never fear.”
– Sharing his vision for Singapore at the Sree Narayana Mission on 12 September 1965.
“แต่ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า  ที่นี่เราทำรูปแบบสังคมหลายชาติพันธุ์ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศที่เป็นของชุมชนใดชุมชนเดียว แต่เป็นประเทศของพวกเราทุกคน ท่านได้ช่วยกันสร้าง บิดาของท่าน ปู่ของท่านได้ช่วยสร้าง มากกว่าร้อยปีก่อนโน้น พื้นที่นี้เป็นเพียงโคลนตม เป็นปลักหนอง วันนี้ที่นี่เป็นเมืองทันสมัย 10 ปีจากนี้ไป ที่นี่จะเป็นมหานคร ไม่เคยกลัว”
เป็นคำกล่าวของท่าน ลี กวน ยู เมื่อวันที่ 12 กันยายน1965 ที่แสดงให้ถึงวิสัยทัศน์ในการปลุกเร้าให้ชาวสิงคโปร์ที่มีทั้งคนจีน คนมาเลย์ และ คนอินเดีย ซึ่งแตกต่างกันทางเชื้อชาติ ความเชื่อศาสนา และวัฒนธรรมประเพณี ต้องอยู่ร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันและต้องร่วมกันสร้างประเทศสิงคโปร์ให้เป็นเมืองมหานครให้ได้
          เมื่อแรกเริ่มตั้งประเทศสิงคโปร์ การปลดแอกจากการเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ทำให้อังกฤษถอนฐานทัพเรือออกจากเกาะสิงคโปร์ในปี 1971 ทำให้ชาวสิงคโปร์ตกงานถึง 40,000 คน อัตราคนว่างงานสูงถึง 10 % ประเทศสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาใช้ทำมาหากินได้ วิธีแก้ปัญหาของรัฐบาลภายใต้การนำของ ลี กวน ยู คือ การเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศสิงคโปร์ โดยการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้นักลงทุนนานาชาติ เพื่อทำให้ประชาชนมีงานทำก่อน ซึ่งได้รับผลสำเร็จภายในเวลาไม่กี่ปี อัตราคนว่างงานลดลงเหลือ 3% และอัตราการเจริญเติบโตของประเทศเฉลี่ย 10% ทุกปี ความท้าทายในเวลานั้นคือการสร้างแรงจูงใจให้คนงานสิงคโปร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความขยันขันแข็ง พัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ รัฐบาลทำงานร่วมกับสหภาพแรงงานอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ
"We have met our people’s basic needs, we have to meet the rising aspirations of Singaporeans… Home ownership motivates Singaporeans to work hard and to aspire for a better future for their family, to upgrade to better and bigger flats. The HDB story reflects the social mobility of Singaporeans. ”
– At the launch of Tanjong Pagar Town Council’s Five-year Masterplan and opening of ABC Waters on 22 March 2011.

“เราได้ทำให้คนสิงคโปร์มีปัจจัยความต้องการพื้นฐาน เราต้องตอบสนองแรงบันดาลใจชาวสิงคโปร์ที่พุ่งสูงขึ้น การที่ได้เป็นเจ้าของบ้านจะจูงใจให้คนสิงคโปร์ทำงานหนัก และมีแรงบันดาลใจสำหรับอนาคตที่ดีกว่าของครอบครัว โดยยกระดับที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น เป็นแฟลตที่ใหญ่ขึ้น เรื่องราวของ HDB ( the Housing and Development Board) สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของสังคมชาวสิงคโปร์”
ลี กวน ยู จับประเด็นความต้องการของชาวสิงคโปร์ในเวลานั้นได้ถูกต้อง ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีสภาพดีกว่าเดิม เนื่องจากประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆมีพื้นที่น้อย ที่ดินมีราคาแพง ประชาชนไม่สามารถหาเงินมาซื้อที่ดินสร้างบ้านได้ ประชาชนอยู่กันอย่างแออัดในสลัมหลายชุมชน รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการเคหะและการพัฒนา (HDB) เพื่อลงทุนสร้างแฟลตให้ประชาชนผ่อนส่งระยะยาว ทำให้คนสิงคโปร์ไม่ต้องมีความวิตกกังวลเรื่องที่อยู่อาศัย จะได้มุ่งหน้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การวางพื้นฐานโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างเป็นระบบให้แก่ประชาชนของนาย ลี กวน ยู ทำให้วันนี้ ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่ประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตัวเองสูงถึง 90%
"Even in the sixties, when the Government had to grapple with grave problems of unemployment, lack of housing, health and education, I pushed for the planting of trees and shrubs. I have always believed that a blighted urban jungle of concrete destroys the human spirit. We need the greenery of nature to lift up our spirits.”
– At the launch of the National Orchid Garden, 20 October 1995

“แม้ในช่วงทศวรรษที่ 60 เมื่อรัฐบาลต้องปลุกปล้ำกับปัญหาสาหัสเรื่องการว่างงาน การไม่มีบ้านอยู่อาศัย ปัญหาสาธารณสุขและการศึกษา แต่ผมผลักดันให้มีการปลูกต้นไม้และสวนป่า ผมมีความเชื่ออยู่เสมอว่า การมีป่าคอนกรีตในเมืองเป็นการทำลายจิตวิญญาณมนุษย์ เราต้องการความเขียวชะอุ่มของธรรมชาติมายกระดับจิตวิญญาณของเรา”
เพราะการให้ความสำคัญเรื่องการปลูกต้นไม้ของผู้นำประเทศ ลี กวน ยู ทำให้วันนี้ ประเทศสิงคโปร์กลายเป็นเมืองในสวน “City in a Garden” มีต้นจามจุรีปลูกอยู่เต็มเมือง มีสวนสาธารณะที่สวยงามได้รับการตกแต่งดูแลอย่างดี ตั้งแต่สนามบินไปจนถึงย่านธุรกิจการค้า แหล่งท่องเที่ยวหรือที่อยู่อาศัย ทุกถนน ทุกทางแยก ทุกแห่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบ ผิดกับประเทศไทย มีป่าไม้ตามธรรมชาติอยู่ทั่วประเทศ แต่ถูกคนเห็นแก่ตัวตัดต้นไม้ทิ้ง จนกลายเป็นเขาหัวโล้น ทำรีสอร์ท ทำไร่ ทำสวน และเผารุกล้ำป่าจนควันท่วมท้องฟ้าภาคเหนือ
เพราะ ลี กวน ยู เป็นคนเรียนหนังสือเก่ง สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ เขาจึงให้ความสำคัญเรื่องการศึกษามาก เพราะเห็นอนาคตของประเทศสิงคโปร์จะก้าวหน้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้ต้องสร้างคนให้มีความรู้ พูดได้หลายภาษา ทั้งจีน อินเดีย มาเลย์ และภาษาอังกฤษ เพื่อทำให้คนสิงคโปร์ได้รับโอกาสเท่าเทียมกันที่ ลี กวน ยู เรียกว่า “meritocracy” หรือคุณธรรมธิปไตย ใครมีความรู้มีความสามารถ ก็มีโอกาสที่จะสร้างตัวได้ มีงานทำ สร้างธุรกิจได้ไม่ต้องอาศัยเส้นสาย อิทธิพลฝาก ไม่ต้องเสียค่าหัวคิว จ่ายเงินใต้โต๊ะให้ใคร และ ลี กวน ยู ได้ทำการปฏิรูปการศึกษาของประเทศอย่างจริงจัง จากระบบที่รับช่วงต่อมาจากอังกฤษ ทำให้วันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ติดอันดับโลกไปแล้ว และเด็กนักเรียนสิงคโปร์ทำข้อสอบติดอันดับต้นๆของโลกมาโดยตลอด
เรื่องน้ำจืดเป็นปัญหาระดับชาติของสิงคโปร์ เพราะเป็นประเทศที่มีแหล่งน้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ต้องซื้อน้ำจืดจากประเทศมาเลเซีย กลายเป็นปัญหาความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ นายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู วางแผนระยะยาวในการทำให้สิงคโปร์มีน้ำจืดใช้อย่างยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์ ประปาสี่ก๊อก “Four Taps” strategy คือทำการขยายแม่น้ำคูคลองให้กว้างสะอาดเพื่อรองรับน้ำฝนและกักเก็บน้ำ เอาน้ำทิ้งจากบ้านเรือนที่ไหลลงบ่อบำบัดน้ำเสียแล้วบำบัดน้ำเสียให้กลับมาเป็นน้ำดี นำกลับมาบริโภคและใช้ใหม่ได้ ทำโรงงานกลั่นน้ำเค็มจากทะเลให้กลายเป็นน้ำจืด และสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อซื้อน้ำจืดมาบริโภค จากประเทศที่มีจุดอ่อนเรื่องน้ำ ทุกวันนี้ประเทศต่างๆต้องไปดูงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่ประเทศสิงคโปร์
"If you who are growing up do not understand that you have to defend this, then in the end, we will lose. Other people will come, smack you down and take it over. And therefore we have decided, after very careful consideration – one-and-a-half years of careful consideration – that every boy and every girl will learn what it is necessary to defend this country.”
– At a Conferment Ceremony of the Public Service Star Awards at Toa Payoh Community Centre on 21 February 1967.

“ถ้าคุณเติบโตขึ้นและไม่เข้าใจว่าคุณจะต้องป้องกันประเทศนี้ ในที่สุดเราจะสูญเสีย คนอื่นจะเข้ามา กระทืบคุณลง และยึดครอง ด้วยเหตุนี้เราได้ตัดสินใจ หลังจากที่ได้พิจารณาอย่างรอบครอบแล้ว เยาวชนชายและหญิงทุกคน ต้องใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นต่อการป้องกันประเทศ”
ความรับผิดชอบต่อการป้องกันประเทศเป็นคุณค่าที่นายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู สอนเยาวชนของสิงคโปร์ให้รู้จักการป้องกันบ้านเกิดเมืองนอน และรักษาประเทศชาติ เยาวชนทั้งหญิงและชายทุกคนต้องเรียนวิชาการป้องกันประเทศ ไม่มีการจับใบแดง ใบดำ ไม่มีการยกเว้นคนสองเพศ ไม่ว่าเพศไหนก็ต้องเรียนรู้และมีหน้าที่ป้องกันประเทศของตน
"Friendship, in international relations, is not a function of goodwill or personal affection. We must make ourselves relevant so that other countries have an interest in our continued survival and prosperity as a sovereign and independent nation.”
– At the S. Rajaratnam Lecture at Shangri-La Hotel, 9 April 2009.

มิตรภาพ ในความสัมพันธภาพกับนานาชาติ ไม่ใช่เป็นผลจากการมีความปรารถนาดี หรือความเสน่หาส่วนบุคคล เราจะต้องทำตัวเราให้มีความเหมาะสมเพื่อทำให้ประเทศอื่นๆเขามีความสนใจในประเทศเรา เพื่อที่เราจะสามารถอยู่รอด และมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง มีอิสรภาพและอธิปไตยของชาติ
ลี กวน ยู สอนคนในชาติให้สร้างชาติให้มีคุณค่าที่นานาชาติสนใจ คือสร้างคนให้มีคุณภาพ มีการศึกษา สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม สร้างระบบส่งเสริมการลงทุนของคนต่างชาติ สร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสไร้คอรัปชั่น สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน สร้างระบบภาษีที่จูงใจ สร้างประสิทธิภาพในระบบราชการที่รวดเร็วเต็มใจให้บริการ สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี สร้างระบบการเงินที่ครบวงจร และ สร้างสิ่งข้างเคียงอำนวยความสะดวกอื่นๆ จนสิงคโปร์กลายเป็นประเทศศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกในภูมิภาคนี้ได้สำเร็จ เป็นประเทศพัฒนาแล้ว

"We have made our contributions to the development of Singapore. The time has come for a younger generation to carry Singapore forward in a more difficult and complex situation.”
– Announcing his resignation from Cabinet in a joint statement with Senior Minister Goh Chok Tong on 14 May 2011.

“เราได้ทุ่มเทการพัฒนาให้ประเทศสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่คนรุ่นหนุ่มกว่าจะนำสิงคโปร์ก้าวไปข้างหน้าในสถานะการณ์ที่ยากและซับซ้อนกว่า”
          นายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู รู้เวลาที่ต้องลงจากตำแหน่งผู้นำ เพื่อส่งต่ออำนาจให้คนรุ่นต่อไปนำประเทศก้าวไปข้างหน้า เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่บริบทใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี และความรวดเร็ว ซึ่งคนรุ่นเขาไม่เหมาะสมที่จะรับมือแล้ว เพื่อให้ประเทศสิงคโปร์มีโอกาสปรับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของประเทศใหม่ เขาจึงตัดสินใจเดินลงจากตำแหน่งอย่างสง่างามในเวลาที่เหมาะสม

ขอปิดท้ายด้วยคำพูดกินใจประโยคนี้ของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์

"This is my country. This is my life. This is my people... We dug our toes in, we built a nation“
– Interview with The Straits Times, 21 Aug 1989.

“นี่คือประเทศของผม นี่คือชีวิตของผม นี่คือประชาชนของผม เราจิกนิ้วเท้าของเราลงพื้น ทุ่มเททำงาน เราสร้างชาติ”

ขอสดุดีวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีก่อตั้งสิงคโปร์

Salute Lee Kuan Yew !

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเป็นเพื่อนทางความคิด และ

ขอบคุณที่ช่วยแนะนำให้เพื่อนรู้จัก


สมชัย ศิริสุจินต์

 

แหล่งข้อมูล: Website รัฐบาลสิงคโปร์

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจสงบสุขของพระเจ้าอยู่กับคุณ
    คุณจะเป็นนักธุรกิจหรือผู้หญิง? คุณอยู่ในใด ๆ
    ความเครียดทางการเงินหรือไม่หรือคุณต้องการเงินทุนที่จะเริ่มต้นขึ้น
    ธุรกิจของตัวเองของคุณ?
    ) ขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อบุคคล
    B) ธุรกิจเริ่มต้นขึ้นและการศึกษา
    C) รวมหนี้
    ชื่อ: ..........................................
    ประเทศ: .........................................
    สถานที่: ..........................................
    สถานะ: .......................................
    เพศ: ................................................ ...
    อายุ ................................................. ....
    วงเงินกู้ที่จำเป็น: .........................
    เงินกู้ระยะเวลา: ...................................
    หมายเลขโทรศัพท์มือถือส่วนบุคคล: .......................
    รายเดือน
    รายได้: .....................................
    ขอขอบคุณและขอให้พระเจ้าคุ้มครอง
    อีเมล์: marycoleloanscompany3@gmail.com

    ตอบลบ