“So you must follow the example of
good men and live a righteous life. Righteous men- men of integrity- will live
in this land of ours.” 
  Proverbs 2:20-21
ได้นำเสนอเรื่องรากฐานความสามารถในการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของประเทศไทยไปแล้ว วันนี้ขอเสนอรากฐานความสามารถในการแข่งขันที่สำคัญประการที่
3 ในหมวดความต้องการพื้นฐาน คือ เรื่องสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค
(Macroeconomic
environment) ของประเทศที่นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจ
เพราะเรื่องระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
และมีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนทาง การค้า การทำธุรกิจทุกประเภท เนื่องจากนโยบายหรือมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้กระตุ้นหรือควบคุมเศรษฐกิจการเงินของประเทศ
มีผลต่อตลาดหุ้น อัตราดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อหรือเงินฝืด ค่าของเงิน และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างเช่นสถานะการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้ที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจจากหลายหน่วยงาน
ทั้งของราชการและเอกชน ต่างทะยอยออกมาแถลงแล้วว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้ไม่น่าเกิน 2 เปอร์เซนต์ จากที่เคยประกาศตัวเลขตอนต้นปีว่า ปึ 2557 ประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 4 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนด้วยกันแล้ว
ประเทศเพื่อนบ้านต่างมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 4 เปอร์เซนต์ในปีนี้ ตัวเลขอย่างนี้สะท้อนสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยว่าน่าจะนโยบายทางเศรษฐกิจบางประการที่เป็นเหตุทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและความแข็งแรงทางเศรษฐกิจของประเทศ มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนขยายธุรกิจ
หรือ นักลงทุนในธุรกิจใหม่ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนเสมอ
| 
   
รากฐาน Pillar 
 | 
 |||||||||||
| 
   
ปัจจัยต้องการพื้นฐาน 
BASIC REQUIREMENTS 
 | 
  
   
สถาบัน 
1.Institutions 
 | 
  
   
โครงสร้างพื้นฐาน2.Infrastructure 
 | 
  
   
เศรษฐกิจมหภาค3.Macroeconomic
  environment 
 | 
  
   
สุขภาพและการศึกษาเบื้องต้น 
4.Health and primary education 
 | 
 |||||||
| 
   
ประเทศ/เศรษฐกิจCountry 
/Economy 
 | 
  
   
ตำแหน่ง 
Rank 
 | 
  
   
คะแนนScore 
 | 
  
   
ตำแหน่งRank 
 | 
  
   
คะแนนScore 
 | 
  
   
ตำแหน่งRank 
 | 
  
   
คะแนนScore 
 | 
  
   
ตำแหน่งRank 
 | 
  
   
คะแนนScore 
 | 
  
   
ตำแหน่งRank 
 | 
  
   
คะแนนScore 
 | 
 |
| 
   
Cambodia    
 | 
  
   
103 
 | 
  
   
4.09 
 | 
  
   
119 
 | 
  
   
3.25 
 | 
  
   
107 
 | 
  
   
3.05 
 | 
  
   
80 
 | 
  
   
4.60 
 | 
  
   
91 
 | 
  
   
5.44 
 | 
 |
| 
   
Indonesia    
 | 
  
   
46 
 | 
  
   
4.91 
 | 
  
   
53 
 | 
  
   
4.11 
 | 
  
   
56 
 | 
  
   
4.37 
 | 
  
   
34 
 | 
  
   
5.48 
 | 
  
   
74 
 | 
  
   
5.67 
 | 
 |
| 
   
Lao
  PDR      
 | 
  
   
98 
 | 
  
   
4.13 
 | 
  
   
63 
 | 
  
   
3.92 
 | 
  
   
94 
 | 
  
   
3.38 
 | 
  
   
124 
 | 
  
   
3.78 
 | 
  
   
90 
 | 
  
   
5.44 
 | 
 |
| 
   
Malaysia       
 | 
  
   
23 
 | 
  
   
5.53 
 | 
  
   
20 
 | 
  
   
5.11 
 | 
  
   
25 
 | 
  
   
5.46 
 | 
  
   
44 
 | 
  
   
5.26 
 | 
  
   
33 
 | 
  
   
6.28 
 | 
 |
| 
   
Myanmar     
 | 
  
   
132 
 | 
  
   
3.36 
 | 
  
   
136 
 | 
  
   
2.80 
 | 
  
   
137 
 | 
  
   
2.05 
 | 
  
   
116 
 | 
  
   
4.00 
 | 
  
   
117 
 | 
  
   
4.59 
 | 
 |
| 
   
Philippines     
 | 
  
   
66 
 | 
  
   
4.63 
 | 
  
   
67 
 | 
  
   
3.86 
 | 
  
   
91 
 | 
  
   
3.49 
 | 
  
   
26 
 | 
  
   
5.76 
 | 
  
   
92 
 | 
  
   
5.41 
 | 
 |
| 
   
Singapore     
 | 
  
   
1 
 | 
  
   
6.34 
 | 
  
   
3 
 | 
  
   
5.98 
 | 
  
   
2 
 | 
  
   
6.54 
 | 
  
   
15 
 | 
  
   
6.13 
 | 
  
   
3 
 | 
  
   
6.73 
 | 
 |
| 
   
Thailand    
 | 
  
   
40 
 | 
  
   
5.01 
 | 
  
   
84 
 | 
  
   
3.66 
 | 
  
   
48 
 | 
  
   
4.58 
 | 
  
   
19 
 | 
  
   
6.01 
 | 
  
   
66 
 | 
  
   
5.80 
 | 
 |
| 
   
Vietnam      
 | 
  
   
79 
 | 
  
   
4.44 
 | 
  
   
92 
 | 
  
   
3.51 
 | 
  
   
81 
 | 
  
   
3.74 
 | 
  
   
75 
 | 
  
   
4.66 
 | 
  
   
61 
 | 
  
   
5.86 
 | 
 |
สำหรับรากฐานที่ 3 ในหมวดปัจจัยต้องการพื้นฐานคือ เรื่องสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomic environment) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 19 ได้คะแนน 6.01 ถือว่าอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างดี แม้จะสู้ประเทศสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับที่
15 ไม่ได้ แต่ดีกว่าประเทศฟิลิปปินส์ อันดับที่ 26 ประเทศอินโดนีเซียอันดับที่ 34 ประเทศมาเลเซียอันดับที่ 44  ประเทศเวียตนามอันดับที่ 75 ประเทศกัมพูชาอันดับที่ 80 ประเทศพม่าอันดับที่
116 และประเทศลาว อันดับที่ 124 
การที่ประเทศไทยได้คะแนนในเรื่องสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคค่อนข้างดี
เขาศึกษาวิเคราะห์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ 5เรื่อง ซึ่งประเทศไทย ได้คะแนนในแต่ละเรื่อง และมีอันดับดังนี้
รากฐานที่ 3  สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค
(Macroeconomic environment)
| 
   
เรื่อง 
 | 
  
   
คะแนน 
Value 
 | 
  
   
ตำแหน่งของประเทศไทย 
Rank 
 | 
 
| 
   
งบประมาณของรัฐบาลที่สมดุล
  กับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 
Government
  budget balance, % GDP* 
 | 
  
   
–0.2 
 | 
  
   
27 
 | 
 
| 
   
เงินออมประชาชาติ
  กับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ 
Gross
  national savings, % GDP* 
 | 
  
   
28.5 
 | 
  
   
27 
 | 
 
| 
   
เงินเฟ้อ
  กับอัตราการเปลี่ยนแปลงในปี 
Inflation,
  annual % change* 
 | 
  
   
2.2 
 | 
  
   
1 
 | 
 
| 
   
หนี้สินทั่วไปของรัฐบาลกับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ 
General
  government debt, % GDP* 
 | 
  
   
45.3 
 | 
  
   
78 
 | 
 
| 
   
อันดับเครดิตของประเทศ 
Country
  credit rating, 0–100 (best)* 
 | 
  
   
63.5 
 | 
  
   
43 
 | 
 
อันดับที่ดีที่สุดของประเทศไทยในหมวดสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคคือ
เรื่องเงินเฟ้อกับอัตราการเปลี่ยนแปลงซึ่งประเทศไทยได้คะแนน 2.2 และอยู่ในอันดับที่ 1 ซึ่งน่าจะเป็นผลจากในช่วงระยะเวลาปีที่ทำการศึกษาอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยไม่มากและค่อนข้างนิ่ง
จึงทำให้ได้คะแนนดีในเรื่องนี้
อันดับที่ดีถัดมาของประเทศไทยคือเรื่องงบประมาณของรัฐบาลที่ตั้งงบประมาณได้สมดุล
กับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวม ทำให้ได้อันดับที่ 27 และเงินออมประชาชาติ กับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
ก็ได้อันดับที่ 27 เหมือนกัน แสดงว่านโยบายการเงินและการคลังของประเทศไทย
ยังเป็นที่น่าเชื่อถือได้ เพราะรัฐบาลสามารถบริหารงบประมาณได้ดี ยังสามารถใช้หนี้คืนได้
เหมือนบางประเทศที่มีปัญหา รัฐบาลไทยยังมีระเบียบวินัยทางการคลังที่ดี และประเทศยังมีเงินออมในประเทศเพื่อใช้ในการลงทุนได้พอสมควร
ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือทางการเงินของประเทศ คือเรื่องเครดิตของประเทศไทยอยู่อันดับที่
43 ถือว่ายังไม่เสียหาย
ยังไม่ขี้เหร่จนไม่มีใครกล้าให้กู้เงิน ส่วนเรื่องหนี้สินทั่วไปของรัฐบาลกับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศอยู่ในอันดับที่
78 เป็นอันดับที่แย่ที่สุดในหมวดนี้
แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีสัดส่วนหนี้สินมากพอสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับการหารายได้แล้ว
น่าจะเป็นข้อควรระวังของรัฐบาลในการใช้นโยบายประชานิยมมากจนเกินกำลัง ทำให้ประเทศมีหนี้สินเพิ่มขึ้น
สำหรับรากฐานที่ 4 คือรากฐานเรื่องสุขภาพและการศึกษาเบื้องต้น (Health and primary education) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66  เป็นอันดับที่อาจจะค้านกับความรู้สึกของคนไทยพอสมควร
เพราะมีความเข้าใจว่าระบบสาธารณสุขและระบบการศึกษาของประเทศไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคนี้
แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าประเทศสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 3 เป็นที่ยอมรับอย่างไม่กังขาว่าระบบสาธารณสุขและการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ก้าวหน้าไปไกลอยู่ในอันดับต้นๆของโลกไปแล้ว
ประเทศมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 33 เป็นประเทศที่พยายามพัฒนาตามประเทศสิงคโปร์
และประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ก้าวหน้าไปไกลกว่าประเทศไทยแล้วเช่นกัน
แต่ที่น่าสนใจคือ ประเทศเวียตนาม ที่สามารถแซงหน้าประเทศไทยไปอยู่อันดับที่ 61 หลายท่านอาจจะรู้สึกค้าน แต่ต้องยอมรับว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศเวียตนามได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ส่วนประเทศที่ตามหลังประเทศไทยได้แก่ประเทศอินโดนีเซียอยู่อันดับที่
74 ประเทศลาวอันดับที่ 90 ประเทศกัมพูชาอันดับที่ 91 ประเทศฟิลิปปินส์อันดับที่
92 และประเทศพม่าอันดับที่ 117
ทำไมรากฐานที่ 4 เรื่อง สุขภาพและการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 66 เขาพิจารณาจากปัจจัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน
และการให้บริการการศึกษาเบื้องต้นดังนี้
รากฐานที่ 4 สุขภาพและการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Health and primary education)
| 
   
เรื่อง 
 | 
  
   
คะแนน 
Value 
 | 
  
   
ตำแหน่งของประเทศไทย 
Rank 
 | 
 
| 
   
จำนวนผู้ป่วยโรคมาเลเรียต่อประชากร
  100,000 คน 
Malaria
  cases/100,000 pop.* 
 | 
  
   
209.6 
 | 
  
   
39 
 | 
 
| 
   
ผลกระทบต่อธุรกิจจากโรคมาเลเรีย 
Business
  impact of malaria 
 | 
  
   
5.4 
 | 
  
   
24 
 | 
 
| 
   
จำนวนผู้ป่วยโรควัณโรคต่อประชากร
  100,000 คน 
Tuberculosis
  cases/100,000 pop.* 
 | 
  
   
119.0 
 | 
  
   
99 
 | 
 
| 
   
ผลกระทบต่อธุรกิจจากโรควัณโรค 
Business
  impact of tuberculosis 
 | 
  
   
4.7 
 | 
  
   
99 
 | 
 
| 
   
อุบัติการณ์ของการติดเชื้อ
  HIV โรคเอดส์ อัตราในประชากรผู้ใหญ่ 
HIV
  prevalence, % adult pop.* 
 | 
  
   
1.1 
 | 
  
   
110 
 | 
 
| 
   
ผลกระทบต่อธุรกิจจากการติดเชื้อ
  HIV และโรค AIDS 
Business
  impact of HIV/AIDS 
 | 
  
   
4.6 
 | 
  
   
105 
 | 
 
| 
   
อัตราการตายของทารกต่อการเกิดมีชีพ
  1000 ราย 
Infant
  mortality, deaths/1,000 live births* 
 | 
  
   
11.4 
 | 
  
   
61 
 | 
 
| 
   
อายุขัยเฉลี่ยของประชากร 
Life
  expectancy, years* 
 | 
  
   
74.2 
 | 
  
   
70 
 | 
 
| 
   
คุณภาพการศึกษาเบื้องต้น 
Quality
  of primary education 
 | 
  
   
3.6 
 | 
  
   
90 
 | 
 
| 
   
อัตราการเข้าโรงเรียนในระดับการศึกษาเบื้องต้น 
Primary
  education enrolment, net %* 
 | 
  
   
95.6 
 | 
  
   
58 
 | 
 
            อันดับดีที่สุดของประเทศไทยในหมวดเรื่องสุขภาพและการศึกษาเบื้องต้น
คือเรื่องโรคมาเลเรียที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 24 และจำนวนผู้ป่วยโรคมาเลเรียต่อประชากร
100,000 คน
ที่อยู่ในอันดับ 39 นับว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคมาเลเรียได้ค่อนข้างดี
ไม่มีการระบาดของโรคนี้ในวงกว้าง จำนวนผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้นบ้างในระยะหลังๆน่าจะเป็นผลจากการย้ายถิ่นของประชาชนประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาขายแรงงานในประเทศไทยและเป็นพาหะนำโรคนี้เข้ามาในประเทศไทย
          อันดับที่ดีถัดมาคือเรื่องอัตราการเข้าโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่อยู่อันดับที่
58 เพราะประเทศไทยมีโรงเรียนในระดับประถมศึกษากระจายครอบคลุมทั่วประเทศ
แม้แต่บนดอยสูงก็มีโรงเรียนที่ครูตำรวจชายแดนสอน
แต่พอมาดูเรื่องคุณภาพของเด็กที่เรียนในระดับประถมศึกษา ประเทศไทยหล่นไปอยู่อันดับที่
90
สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการศึกษาเบื้องต้นของไทย เป็นการยืนยันผลการสำรวจเรื่องเด็กไทยเรียนจบชั้นประถมศึกษาแล้วยังอ่านหนังสือไม่ออก
เขียนไม่ได้ เรื่องการศึกษาจึงเป็นวาระของประเทศไทยที่ต้องรีบปฏิรูประบบการศึกษาเป็นการด่วน
          อันดับถัดไปคือเรื่องอัตราการตายของทารกแรกคลอดต่อการเกิดมีชีพ
1,000 ราย
ซึ่งประเทศไทยมีตัวเลขการตายของทารกแรกคลอดเฉลี่ย 4.1 คนต่อการคลอด 1,000 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 61 ยังต้องพัฒนาเรื่องนี้ต่อไปกระทรวงสาธารณสุขไทยต้องรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจกับหญิงมีครรภ์และครอบครัวเพื่อลดตัวเลขการตายของทารกแรกคลอดลง
ส่วนเรื่องอายุขัยเฉลี่ยของประชากรไทยอยู่อันดับที่ 70 แม้จะเป็นอันดับไม่ค่อยดี แต่มีแนวโน้มว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงไทยจะยืนยาวถึง
78 ปี จึงจะยอมลาจากไป
ในขณะที่ผู้ชายไทยอายุเฉลี่ยประมาณ 71 ปี ก็อำลาโลกแล้ว
          อันดับที่น่าห่วงใยถัดมาคือเรื่องจำนวนผู้ป่วยโรควัณโรคต่อประชากร
100,000 คน และผลกระทบต่อธุรกิจจากโรควัณโรค
ที่ประเทศไทยได้อันดับ 99 ทั้ง 2 รายการ วัณโรคซึ่งเป็นโรคที่เคยแทบจะหายไปจากประเทศไทยแล้วในอดีต
ปัจจุบันหวนกลับมาระบาดอีกครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการอพยพข้ามถิ่นของประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านและนำเชื้อโรคมาด้วย
และจากการที่ผู้ป่วยโรคเอดส์ได้รับเชื้อวัณโรคง่ายเนื่องจากร่างกายอ่อนแอขาดภูมิคุ้มกันทำให้เกิดการระบาดได้มากขึ้น 
          อันดับที่ไม่ดีส่งท้ายในเรื่องสุขภาพของคนไทยคือเรื่องการติดเชื้อ
HIV และป่วยเป็นโรคเอดส์ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจซึ่งประเทศไทยอยู่อันดับที่
105  และอุบัติการณ์ของการติดเชื้อ HIV โรคเอดส์ ต่ออัตราประชากรผู้ใหญ่ที่ประเทศไทยอยู่อันดับ110 สะท้อนความจริงว่า
สถานการณ์โรคเอดส์ของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง ยังมีปัญหาที่ต้องใส่ใจ เพราะยังมีจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วประเทศไทยอยู่ประมาณ
5-6 ล้านคน และที่ไม่สบายใจคือ
มีจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ใหม่เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10,000-20,000 คน แสดงว่าคนไทยมีพฤติกรรมเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ระมัดระวัง
เป็นประเด็นที่ต้องช่วยกันรณรงค์สร้างความเข้าใจในสังคมไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชนไทย
          Jack
Welch กล่าวว่า “An
organization's ability to learn, and translate that learning into action
rapidly, is the ultimate competitive advantage.”
ความสามารถขององค์กรในการเรียนรู้
และเปลี่ยนการเรียนรู้นั้นเป็นการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว
คือความสามารถในการแข่งขันอย่างสูงสุด
          ประเทศไทยมีความสามารถในการเรียนรู้ขนาดใหน
และมีความสามารถในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปฏิบัติให้เกิดผลได้รวดเร็วเพียงใด
คือความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
ขอบคุณที่แนะนำให้เพื่อนอ่านที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น