วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

10 อันดับแหล่งท่องเที่ยวของชาวจีนแผ่นดินใหญ่

“ที่ไหนที่ไม่มีการนำ ประชาชนก็ล้มลง แต่ในที่ซึ่งมีที่ปรึกษามาก ย่อมมีความปลอดภัย”                                                                                      สุภาษิต 11:14

ประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่ กำลังสนใจเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นทุกปี และนักท่องเที่ยวจีนจากจีนแผ่นดินใหญ่กำลังจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลุ่มใหญ่ที่สุดของโลก ตามรายงานประจำปีของการพัฒนาการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนปี 2012 ที่เปิดเผยโดย การท่องเที่ยวแห่งชาติของจีน และสถาบันการท่องเที่ยวของจีน ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 70 ล้านคน ออกไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2010 ซึ่งเป็นจำนวน 1.2 เท่าของจำนวนชาวอเมริกันที่ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2010 และเป็นจำนวน 3.5 เท่าของชาวญี่ปุ่นที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ



จำนวนการท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 4.4 % ในปีที่แล้ว เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเสีย 30% แม้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลกต้องเผชิญกับผลกระทบจากเรื่องวิกฤติหนี้สินประเทศในยุโรป เรื่องวิบัติภัยโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น และเรื่องความไม่สงบทางการเมืองในประเทศตะวันออกกลาง และ อัฟริกาเหนือ รายงานประมาณการว่า ปีนี้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 78 ล้านคนเพิ่มขึ้น 12% จากปี 2011 จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และคาดว่าจะใช้จ่ายเงินในต่างประเทศ 80 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจากประมาณ 69 พันล้านเหรียญสหรัฐปีที่แล้ว
ค่าใช้จ่ายส่วนที่มากที่สุดของนักท่องเที่ยวจีนจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 32% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด คาดว่าจะเป็นการซื้อสินค้า อีก 21% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตามรายงานระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การที่เงินเฟ้อในประเทศและค่าเงินหยวนของจีนแข็งขึ้นต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมกันเข้าทำให้เงินหยวนมีอำนาจการซื้อในต่างประเทศมากขึ้น ได้กระตุ้นให้ประชาชนอยากออกไปท่องเที่ยว
จากการศึกษาของวิทยาลัยการท่องเที่ยวของจีนพบว่า ถ้าเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้น 1% ต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4.36%
เฉพาะช่วงวันหยุดประจำปีแห่งชาติเมื่อต้นเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในต่างประเทศมีมูลค่าเท่ากับรายได้รวมจากการขายสินค้าฟุ่มเฟือยภายในประเทศจำนวน 3 เดือน
จากการศึกษาพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนมีความพึงพอใจประเทศสเปน มาเลเซีย รัสเซีย และเยอรมัน ที่มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและการบริการที่ดีขึ้นเป็นอันมาก ประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวพึงสำนึกว่า นักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ต้องการเฉพาะการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยยี่ห้อดังจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีด้วย ดังนั้นถ้าประเทศแหล่งท่องเที่ยวต้องการนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น จะต้องปรับปรุงการบริการที่ให้แก่นักท่องเที่ยวจากจีนด้วย
ประเทศแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงเช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้เริ่มทำสิ่งที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น ตัวอย่างเช่นในบางประเทศ ได้มีป้ายภาษาจีน ประเทศอื่นๆรวมทั้งสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ได้ลดขั้นตอนการขอวีซ่าของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ให้ง่ายขึ้น ประเทศแหล่งท่องเที่ยวสามารถปรับปรุงบริการที่ให้แก่นักท่องเที่ยวจีนด้วยการมีรายการโทรทัศน์ภาษาจีน และมีมัคคุเทศก์ที่พูดภาษาจีนกลางมากขึ้น รวมทั้งให้การปกป้องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวจีนด้วย
จากสถิติที่แสดงจะเห็นว่า ฮ่องกง เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อันดับแรกใน 10 ประเทศ ที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่นิยมไปท่องเที่ยว เมื่อปีที่แล้ว มีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 28.32 ล้านคนไปเที่ยวฮ่องกง ตามด้วย มาเก๊า 19.77 ล้านคน เกาหลีใต้ 2.37 ล้านคน ไต้หวัน 1.85 ล้านคน มาเลเซีย 1.74 ล้านคน ญี่ปุ่น 1.63ล้านคน ประเทศไทย 1.52 ล้านคน สหรัฐอเมริกา 1.36 ล้านคน เวียดนาม 1.14 ล้านคน และสิงคโปร์ 1ล้านคน
เห็นตัวเลขกันอย่างชัดเจนอย่างนี้แล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยต้องปรับตัวปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวและการบริการให้ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนจากแผ่นดินใหญ่และเราต้องทำการตลาดในประเทศจีนมากขึ้น
มาเลเซียทำได้ดีกว่าไทยอีกแล้วในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเวียดนามกำลังตามมาใกล้ สิ่งที่ประเทศไทย ต้องระวังคือ อย่าให้พม่าแซงหน้าเราในอนาคตนะครับ
สำหรับพี่น้องคริสเตียนไทย ขอให้คิดข้ามไปข้างหน้าว่า ในอนาคตคริสตจักรไทยจะทำพันธกิจร่วมกับคริสตจักรจีนในแผ่นดินใหญ่อย่างไร เพราะจำนวนคริสเตียนชาวจีนในแผ่นดินใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 67 ล้านคนแล้ว
William Law กล่าวว่า “พระเจ้าทรงเห็นความสามารถและความอ่อนแอที่แตกต่างกันของมนุษย์ ซึ่งอาจนำพระคุณของพระองค์เมตตาต่อการปรับปรุงความดีงามที่แตกต่างกันของมนุษย์”        
J อาเมนครับ
แหล่งข้อมูล: China Daily

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น