วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Jack Ma



“Wise men will gain an honorable reputation, but stupid men will only add to their own disgrace”                                                     Proverbs 3:35

 

Bill Gates เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ขาย software ให้เราใช้จนร่ำรวยเป็นอภิมหาเศรษฐีของประเทศสหรัฐอเมริกา มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 79.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าพูดถึงประเทศจีน ต้องพูดถึงคนที่ชื่อ Jack Ma เพราะเขาเป็นอภิมหาเศรษฐีของประเทศจีนที่ร่ำรวยจากการตั้งบริษัท Alibaba ซึ่งเป็น website ซื้อขายสินค้าบน Internet มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 24.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
 

          ใครจะไปคาดคิดได้ว่า Jack Ma ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ถึงสองครั้ง จนต้องหันไปเรียนวิทยาลัยครู เมื่อเรียนจบแล้วสมัครหางานทำไม่ได้ แม้กระทั่ง KFC  ที่เข้าไปเปิดกิจการร้านขายไก่ทอดที่เมืองหางโจว (Hangzhou) บ้านเกิดของ Jack Ma เขาก็ไปสมัครทำงานกับ  KFC ด้วย แต่บริษัทไม่รับเขาเข้าทำงาน ทำให้ในที่สุดเขาต้องไปรับงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้เงินเดือนเพียงไม่กี่พันบาท แต่วันนี้เขากลายเป็นบุคคลที่มีเงินทองทรัพย์สินมากมายและมีคนรู้จักทั่วโลก

          Jack Ma ไม่มีความรู้เรื่องโปรแกรมคอมพิวเตอร์พิเศษอะไรเลย เพราะเขาสนใจและเรียนจบสาขาภาษาอังกฤษ และตัวเขาเองรู้จัก Internet ครั้งแรกเมื่อไปทำหน้าที่ล่ามให้เพื่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1995 และเมื่อเขาทดสอบใช้ Internet เป็นครั้งแรกได้ทดลองพิมพ์คำว่า beer เพื่อหาข้อมูลจาก Internet ปรากฏว่ามีข้อมูลเรื่องเบียร์มากมายจากทั่วโลกให้อ่าน แต่ไม่มีข้อมูลเรื่องเบียร์จากประเทศจีนเลย เมื่อทดลองค้นหาข้อมูลอื่นๆของประเทศจีนดู ก็ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลเหมือนกัน สิ่งนี้ทำให้เขาและเพื่อนเกิดความคิดสร้าง website เล่นๆขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลของประเทศจีนทาง internet บ้าง ปรากฏว่า มีคนจีนเข้า Website ที่เขาสร้างขึ้นอย่างง่ายๆ และติดต่อสื่อสารกับเขามากพอสมควร ทำให้ Jack Ma เกิดความประหลาดใจที่มีคนจีนใช้ internet ในการติดสื่อสารอย่างมากมายและกว้างขวาง เขามองเห็นความสำคัญของ Internet ว่ามีประโยชน์อย่างมหาศาลและมีความคิดขึ้นมาว่าจะต้องใช้ Internet ให้เป็นประโยชน์ในการทำมาหากิน

          หลังจากได้ประสบการณ์เรียนรู้เรื่อง Internet ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลับประเทศจีน Jack Ma และ เพื่อนได้รวบรวมเงินก้อนหนึ่งก่อตั้งบริษัทบน Internet ชื่อ China Yellow Pages เพื่อให้บริการสร้าง website ให้บริษัทต่างๆในท้องถิ่น ซึ่งบริษัทของเขาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ความสนใจเรื่องการทำธุรกิจทาง Internet ที่เรียกว่า E-commerce ทำให้ Jack Ma สมัครไปทำงานในแผนกการค้า E-commerce ของกระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของจีนในปี 1998 พอได้ข้อมูลวิชาความรู้เรื่องการค้า E-commerce จากการทำงานพอสมควรแล้ว ในปี1999  Jack Ma ชักชวนเพื่อนๆจำนวน 17 คน สร้างทีมงาน และใช้ Apartment ของตนตั้งบริษัท Alibaba ด้วยเงินลงทุนประมาณ 500,000 หยวน เพื่อทำธุรกิจ E-commerce อย่างจริงจัง และบริษัท Alibaba ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเมื่อกระแสการใช้ Internet ในประเทศจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดและแพร่หลายทั่วประเทศ ทำให้ Alibaba มีสมาชิกหลัก 10 ล้านในเวลาไม่นาน

Jack Ma เห็นแนวโน้มการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการซื้อขายสินค้าบน Internet ทำให้เขาฉวยโอกาสพัฒนาระบบการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการลูกค้า โดยการตั้งบริษัทเพิ่มเพื่อเสริมการบริการให้ครบวงจร โดยตั้งบริษัท Taobao บริษัท Alipay บริษัท Ali Mama และ บริษัท lynx ขึ้นมาสนับสนุนการทำธุรกิจบน Internet ของเขา และปรากฏว่ายอดขายสินค้าบน Internet ของบริษัท Taobao เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถเอาชนะยอดขายของบริษัท eBay ในประเทศจีนได้

ในปี 2015 Jack Ma นำบริษัท Alibaba เข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค NYSE ของประเทศสหรัฐอเมริกา ขายหุ้นเข้าตลาดรับทรัพย์มากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐเข้ากระเป๋า ทำให้ Jack Ma เป็นเศรษฐีระดับโลกคนหนึ่งทันที และกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษตามมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกเช่น Wharton School มหาวิทยาลัย Pennsylvania, MIT และมหาวิทยาลัย Harvard เป็นต้น  และเขากลายเป็นนักพูดในเวทีนานาชาติที่มีคนสนใจลงทะเบียนจ่ายเงินเข้าไปฟังเขาพูดเต็มห้องประชุมทุกครั้ง

Jack Ma น่าจะขอบคุณบริษัท KFC ที่ไม่รับเขาเป็นพนักงานของบริษัท ทำให้เขาต้องดิ้นรนสู้ชีวิต และเกิดแรงฮึดที่จะเอาชนะปัญหาอุปสรรคจนประสบความสำเร็จ

ชีวิตของ Jack Ma ควรเป็นบทเรียนที่มีค่าสอนชีวิตของเรา เส้นทางไปสู่ความสำเร็จไม่ได้เริ่มต้นอย่างราบเรียบและไม่ได้ยากลำบากจนไม่สามารถเดินไปสู่ความสำเร็จ เพราะพระเจ้าไม่ได้โหดร้ายกับชีวิตของเรา เพียงแต่เราไม่ได้มุ่งมั่นและอดทนอย่างแท้จริง พระเจ้าเข้าใจและเห็นใจคนที่ตั้งใจทำงานอย่างทุ่มเท และจะอวยพระพรให้ประสบความสำเร็จในที่สุด

ต่อไปนี้เป็นหลากหลายประโยควาทะทองของ Jack Ma เป็นตัวหนังสือที่มีชีวิต ที่สะท้อนความคิดและการกระทำของเขา และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จอย่าง Jack Ma เขาคิดและทำอย่างไร
 

“You need the right people with you, not the best people.”

คุณต้องการคนที่ถูกต้องกับงานอยู่กับคุณ ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด เพราะการทำงานให้สำเร็จต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเหมาะกับงานและสิ่งแวดล้อมของงานมากกว่าเอาคนดีแต่ไม่รู้งานมาทำงาน


“No matter how tough the chase is, you should always have the dream you saw on the first day. It’ll keep you motivated and rescue you (from any weak thoughts).”

ไม่ว่าการไล่ล่าความฝันของคุณจะยากลำบากเพียงใด คุณต้องมีภาพความฝันที่คุณมองเห็นตั้งแต่วันแรกอยู่กับคุณเสมอ เพราะมันจะช่วยกระตุ้นและช่วยกู้คุณพ้นจากความคิดที่อ่อนแอของคุณ


“Never ever compete on prices, instead compete on services and innovation.”

 อย่าแข่งขันโดยการลดราคาเป็นอันขาด แต่ให้แข่งขันในเรื่องการให้บริการและนวัตกรรม
 

“Instead of learning from other people’s success, learn from their mistakes. Most of the people who fail share common reasons (to fail) whereas success can be attributed to various different kinds of reasons.”

แทนที่จะเรียนรู้จากความสำเร็จของผู้อื่น จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของพวกเขาแทน เพราะคนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวจะมีเหตุของความล้มเหลวที่เหมือนๆกัน แต่ความสำเร็จอาจจะมาจากหลากหลายชนิดเหตุผล


“Never give up. Today is hard, tomorrow will be worse, but the day after tomorrow will be sunshine.”

อย่ายอมแพ้ วันนี้ยากลำบาก วันพรุ่งนี้จะยิ่งแย่กว่า แต่วันต่อไปท้องฟ้าจะสดใส


“Help young people. Help small guys. Because small guys will be big. Young people will have the seeds you bury in their minds, and when they grow up, they will change the world.”

 จงช่วยเหลือคนหนุ่มสาว ช่วยเหลือคนตัวเล็ก เพราะคนตัวเล็กจะมีโอกาสโตขึ้น คนหนุ่มสาวจะมีเมล็ดความคิดที่คุณฝังอยู่ในความคิดของเขา เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงโลก


“I try to make myself happy because I know that if I’m not happy, my colleagues are not happy and my shareholders are not happy and my customers are not happy.”

ผมพยายามทำให้ตัวเองมีความสุข เพราะผมรู้ว่าถ้าผมไม่มีความสุข เพื่อนร่วมงานของผมจะไม่มีความสุข ผู้ถือหุ้นบริษัทผมจะไม่มีความสุข และลูกค้าของผมจะไม่มีความสุข


“If you’ve never tried, how will you ever know if there’s any chance?”

ถ้าคุณไม่เคยพยายาม แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามันมีโอกาสหรือไม่


“If you don’t give up, you still have a chance. Giving up is the greatest failure.”

ถ้าคุณยังไม่ยอมแพ้ คุณยังคงมีโอกาส การยอมแพ้คือความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่
 

“If we are a good team and know what we want to do, one of us can defeat ten of them.”

ถ้าเราเป็นทีมงานที่ดี และรู้ว่าเราต้องการทำอะไร คนหนึ่งในพวกเราสามารถเอาชนะคนสิบคนได้


“A leader should have higher grit and tenacity, and be able to endure what the employees can’t.”

ผู้นำควรต้องมีความทรหดอดทนและฮึดสู้อย่างสูง และสามารถทนได้กับสิ่งที่พนักงานไม่สามารถทนได้


          Jack Ma เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของคนจีน และคนเอเซีย ที่คนไทยควรเรียนรู้
 
ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านครับ

 

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความไร้ระเบียบ




“The Lord will curse the evil person’s house, but he will bless the home of those who do right.”                       Proverbs 3: 33

 

Victor Hugo เคยกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะมีพลังยิ่งใหญ่เท่าพลังความคิดเมื่อเวลาของเขามาถึง “There’s nothing as power as an idea whose time has come.” สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มีเวลาและจังหวะของมัน บางครั้งความคิดที่ดีๆแต่นำไปเสนอต่อผิดคน ในสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ในเวลาและจังหวะที่ไม่ควรนำเสนอ คือไม่มีบริบทและกาละที่สนับสนุนการเสนอความคิด ผลก็คือ ความคิดที่ดีนั้นไม่ได้รับความสนใจและคนฟังมองไม่เห็นคุณค่า แต่เมื่อเวลาและจังหวะของความคิดนั้นมาถึง คนที่เคยได้รับฟังความคิดนี้ จะนึกขึ้นมาได้ เกิดความคิดแวบขึ้นมามองเห็นประโยชน์ของความคิดนี้ แบบดวงตาเพิ่งเห็นธรรม จึงนำความคิดนั้นมาใช้เป็นความคิดของตนเอง ความคิดของผู้เสนอก็เกิดผล แต่ในหน้าตาและผลประโยชน์ของผู้อื่น

ในยุคที่การแสดงความคิดเห็นมีพลังมหาศาล ผ่านช่องทางสื่อสังคม (Social media) ในเวลานี้ ต้องเข้าใจว่าความคิดเห็นหนึ่งสามารถถ่ายทอดกระจายไปในวงกว้างและเกิดผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว ผู้แสดงความคิดเห็นควรมีความตระหนักว่า หนึ่งความคิดเห็นที่แสดงออกไปอาจมีผลต่อกระทบเกิดขึ้นในวงกว้างมหาศาลได้ ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นทุกครั้ง ควรมีจุดมุ่งหมายให้พลังผลกระทบ (Impact) ที่จะเกิดขึ้นจากความคิดเห็นที่เสนอออกไปเป็นพลังทางสร้างสรร (Creative power) ที่สร้างคุณค่าในสังคม เป็นประโยชน์ต่อผู้รับรู้ความคิดเห็น และเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ทำให้ชีวิตของผู้อื่นมีความสุขมากขึ้น

Edward Lorenz ตั้งคำถามว่า Does the flap of a butterfly’s wing in Brazil set off a tornado in Texas? การขยับปีกของผีเสื้อในประเทศบราซิลจะก่อให้เกิดลมพายุหมุนในรัฐเท็กซัสประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ มีความหมายว่าสิ่งเล็กๆที่เกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งอาจส่งผลกระทบที่เพิ่มพลังมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าทวีคูณจนเกิดเป็นพลังมหาศาลในที่สุด ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นรอบตัวเราเช่น แผ่นดินไหวขนาดเล็กจุดหนึ่งอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่อีกจุดหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป คลื่นสึนามิขนาดเล็กๆที่เกิดขึ้นจุดหนึ่งกลางทะเลอาจกลายเป็นคลื่นขนาดยักษ์โถมเข้าถล่มเมืองทั้งเมืองที่อยู่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรได้ หิมะที่ถล่มขนาดเล็กๆจุดหนึ่งบนยอดเขาสูงอาจกลายเป็นก้อนภูเขาหิมะกลิ้งลงมาทับหมู่บ้านที่เชิงเขาข้างล่างทั้งหมู่บ้านได้ ความคิดเล็กๆความคิดหนึ่งที่เสนอออกไปจากคนหนึ่งอาจจะเกิดผลกระทบใหญ่หลวงในที่อีกแห่งหนึ่งได้เช่นกัน

ปัญหาของสังคมในเวลานี้คือเรื่องการจัดการกับความไร้ระเบียบหรือความสับสนอลหม่านในสังคม (Social Chaos) เพราะเวลาในอดีตที่ผ่านมา สังคมเคยตั้งมั่นบนพื้นฐานโครงสร้างทางสังคมที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคงและมีความเป็นระเบียบ มีกฏ ข้อบังคับ ประเพณี วัฒนธรรมที่ยึดมั่นถ่ายทอดการปฏิบัติตามกันมาจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนรุ่นต่อไป แต่ Stan Davis กล่าวว่า “When the infrastructure shift, everything rumbles.” เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเปลี่ยนทุกอย่างส่งเสียงไม่พอใจไม่เป็นสุข การสื่อสารผ่านสื่อสังคมที่มีความรวดเร็วต่อการการรับรู้ในวงกว้างในเวลานี้ได้ทำให้โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก กฏ ระเบียบ ประเพณี วัฒนธรรม แบบเดิมที่เคยยึดมั่นและได้รับการถ่ายทอดตามกันมา เริ่มคลอนแคลนไม่ได้รับการตอบสนองจากคนรุ่นใหม่ตามวิถีชีวิตแบบเดิมแล้ว

ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ การปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุลของสังคม (Social Fulcrum) จะเป็นแบบใด เพราะถ้าสถานะการณ์ที่เป็นอยู่ในสังคมยังอยู่ห่างไกลจากจุดสมดุลของมัน ความไม่เป็นระเบียบในสังคมจะยังปะทุเกิดขึ้น และสังคมยังต้องปรับตัวแสวงหาจุดสมดุลของมันต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะลงตัว ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและสูญเสียทรัพยากรต่างๆอีกมหาศาล และอาจสูญเสียโอกาสที่มีค่าของสังคมไปก็ได้ แต่ถ้าความไร้ระเบียบนั้นอยู่นั้นอยู่ใกล้จุดสมดุลของมันแล้ว สังคมจะเริ่มมีความเป็นระเบียบมากขึ้น สังคมจะปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุลของมันในที่สุด สังคมจะเกิดความเป็นระเบียบ ความสับสนอลหม่านจะหายไป ความสงบสุขจะกลับคืนมา แต่อาจจะมีในบางสถานะการณ์ที่สังคมอาจจะกำลังตกอยู่ในจุดที่เป็นทางแพร่งสองทาง (Bifurcation) คือทางหนึ่งเดินไปสู่ความไร้ระเบียบในสังคม และอีกทางหนึ่งเดินไปสู่ความเป็นระเบียบในสังคม จุดนี้เป็นจุดวิกฤติ (Critical point) ของสังคมที่คนในสังคมต้องมีความตระหนักรู้ มีความคิดสติปัญญาในการเลือกเดินให้ถูกทาง ถ้าโชคร้ายเลือกเดินผิดทางสังคมจะเกิดความไร้ระเบียบ เกิดความไม่สงบสุขและนำความเสียหายอย่างไม่อาจนับมูลค่าได้ ดังที่เห็นได้จากเหตุการณ์ความไม่สงบและความไร้ระเบียบที่เกิดขึ้นในบางประเทศที่ยังมีการสู้รบฆ่ากันในเวลานี้

ความไร้ระเบียบในสังคม จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างยากลำบาก เพราะ

1.   ไม่มีเสถียรภาพ (Unstable)

ในสังคมที่ไร้ระเบียบไม่มีความเชื่อมั่น ไม่มีอะไรที่จะรับรองได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะคนที่อยู่ในสถานการณ์ไร้ระเบียบต่างไม่มีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ทุกคนพยายามเอาตัวรอดก่อน ในสมัยก่อนเรียกสถานการณ์แบบนี้ว่า ไร้ขื่นแป คือไม่มีอะไรให้ผูกจับยึดโยงกันให้เกิดความแข็งแรงมั่นคง เหมือนไม้ขื่อที่ทำหน้าที่ยืดหัวเสาสองต้นให้ตั้งตรงและไม้แปที่ยึดโยงกับไม้ขื่อเพื่อรองรับโครงสร้างของส่วนหลังคาทั้งหมด ถ้าไม่มีขื่อและแปยึดโยงกันไว้ บ้านก็ล่ม

2.   ไม่สามารถพยากรณ์ได้ (Unpredictable)

สังคมที่ไร้ระเบียบไม่สามารถคาดการณ์หรือพยากรณ์ได้ว่าจะเป็นไปเช่นใดในอนาคต เพราะไม่สามารถควบคุมตัวแปรในสังคมที่ไร้ระเบียบได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าออกจากบ้านเช้าวันนี้แล้วจะมีชีวิตได้กลับเข้าบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่ ตรงกันข้ามกับในสังคมที่มีระเบียบมากๆอย่างประเทศญี่ปุ่นที่สามารถบอกได้ว่ารถเมล์คันไหนจะไปจอดที่ป้ายรถเมล์ใดในเวลากี่โมงกี่นาที

3.   ไม่สามารถควบคุมผลกระทบ (Un-controllable effect)

สังคมที่ไร้ระเบียบไม่สามารถควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความไร้ระเบียบในสังคมได้ การวางระเบิดหนึ่งลูกที่กลางตลาด หรือการวางเพลิงสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศ ความเชื่อมั่นในการลงทุน การทำธุรกิจค้าขายมากขนาดใด ไม่สามารถควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นได้

4.   ไม่สามารถควบคุมเชิงเส้นตรง (nonlinear control)

สังคมไร้ระเบียบ มีตัวแปรทางสังคมซับซ้อนหลายตัวแปรที่ไม่สามารถกำหนดและควบคุมได้ ทำให้ยากต่อการออกแบบการควบคุม เพราะสถานการณ์มันไม่นิ่งให้เข้าไปจับและควบคุมไว้ แตกต่างจากสังคมที่มีระเบียบที่สามารถวางแผน กำหนดเป้าหมาย กำหนดยุทธศาสตร์ออกแบบควบคุมการใช้ทรัพยากร การบริหารจัดการ และวัดผลได้

5.   เกิดผลมากกว่าการทวีคูณ (Exponential)

สังคมไร้ระเบียบไม่สามารถกำหนดปริมาณการเติบโตหรือการถดถอยของสถานการณ์ในสังคมได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถคำนวนผลออกมาในลักษณะการเกิดผลอย่างทวีคูณแบบปกติได้ เช่นเดียวกับการที่เราไม่สามารถคำนวณผลความเสียหายที่เกิดจากพายุหมุนในแผ่นดิน คลื่นสึนามิกลางมหาสมุทร หรือหิมะถล่มบนภูเขาสูง

          อ่านมาถึงตรงนี้แล้วถ้าท่านรู้สึกงง และไม่เข้าใจ แสดงว่าท่านเป็นปกติดีครับ เพราะผมเขียนด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกัน อย่าได้คิดเป็นเรื่องใหญ่ระดับสังคมเลยนะครับ เอาเป็นว่าขอให้ท่านคิดเพียงแค่ตัวท่านเองก่อนว่า ถ้าชีวิตของท่านเกิดความไม่มีระเบียบในชีวิตขึ้นมา แล้วจะเกิดผลอะไรขึ้นบ้างในชีวิตของท่าน และจะมีผลกระทบต่อหน่วยงานที่ท่านทำงานอย่างไรบ้าง

ขอปิดท้ายด้วยคำพูดช่วยให้คิด ที่จะช่วยให้เราเข้าใจเรื่องความไร้ระเบียบมากขึ้น
Napoleon Bonaparte กล่าวว่า The battlefield is a scene of constant chaos. The winner will be the one who controls that chaos, both his own and the enemies.” สนามรบคือฉากของความอลม่านไร้ระเบียบอยู่เสมอ ผู้ชนะการรบคือผู้ที่ควบคุมความไร้ระเบียบที่เกิดขึ้น ทั้งฝ่ายตนเอง และฝ่ายศัตรู
Carl Jung กล่าวว่า “In all chaos there is a cosmos, in all disorder a secret order.” ในความไร้ระเบียบยังมีจักรวาล (ที่มีระเบียบ) ในความไม่มีระเบียบทั้งมวล ยังมีความเป็นระเบียบซ่อนอยู่
Deepak Chopra กล่าวว่า “In the midst of movement and chaos, keep stillness inside of you.” ท่ามกลางความเคลื่อนไหวและความสับสนไร้ระเบียบ จงมีความความสงบนิ่งภายในใจของคุณ

ร้อนๆแบบนี้ ทำใจนิ่งสงบไว้ก่อนนะครับ


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมและอ่านตลอดเดือนพฤษภาคม มากกว่า 1,500 คน ขออภัยที่ไม่ได้เขียนอะไรเพิ่มเติมในเดือนที่ผ่านมาเพราะสมองของผมขอลาหยุดไปจัดระเบียบความคิดทั้งเดือนครับ

สมชัย ศิริสุจินต์

https://somchaiblessings.blogspot.com