วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

มองกางเขนแล้วย้อนมองตัวเรา

 “พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่าถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา”            ลูกา 9:23  
U กางเขนเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายที่สูงค่ามากสำหรับคริสตชน เพราะกางเขนเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้มนุษย์ได้รับการไถ่บาปและได้รับความรอด จากการที่พระเยซูคริสต์สละชีวิตให้ถูกตรึงและตายบนกางเขนเพื่อไถ่บาปทำให้มนุษย์ได้รับความรอด ดังนั้นการตายและการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์จึงเป็นหัวใจของคริสตชน
กางเขนที่พระเยซูคริสต์แบกเป็นกางเขนที่ยิ่งใหญ่ เป็นกางเขนแห่งความรักและความเสียสละที่สูงส่งเพื่อความรอดของมนุษย์ทั้งมวล และพระเยซูคริสต์ต้องการให้เราแบกกางเขนของเราติดตามพระองค์ด้วย แม้ว่ากางเขนที่พระเยซูคริสต์ต้องการให้เราแบกจะเบากว่าที่พระองค์แบกมาก แต่เรายังพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ยอมแบกกางเขนที่พระองค์มอบหมายตามพระองค์ เพราะเรากำลังสาละวนกับการแบกสิ่งอื่นที่ไม่ใช่กางเขนของพระคริสต์ เราเสาะแสวงหาสิ่งสารพัดในโลกนี้มาแบกเอาไว้ แทนการแบกกางเขนที่พระองค์มอบหมาย
จุดอ่อนของเรา อยู่ตรงที่เราไม่สามารถเอาชนะตัวเองได้ เราเอาสิ่งสารพัดที่ไม่ใช่ทางแห่งความรอด ไม่ใช่ชัยชนะของชีวิตมายึดติดแบกเอาไว้ มากเสียจนไม่สามารถสลัดให้หลุดพ้น จากวงจรแห่งความบาปได้
โรม. 6:23 “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
มองกางเขนแล้วย้อนมามองดูตัวเราด้วยว่า เรากำลังแบกอะไรกันอยู่  สิ่งที่เรากำลังแบกดีกว่ากางเขนที่พระเยซูคริสต์มอบหมายให้เราแบกหรือไม่? สิ่งที่เรากำลังแบกให้ความรอดแก่ชีวิตของเราหรือไม่?
เอเฟซัส 2:8 “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้
มองกางเขนแล้วเราเห็นความรอดที่พระเจ้าทรงประทานให้หรือเปล่า?
Have a peaceful Easter! J อาเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น