วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สถิตในดวงใจนิรันดร



 
 
วันนี้เป็นวันที่สุดเศร้าใจในหัวใจชาวไทยทุกคน

แม้จะรู้แก่ใจว่าวันที่ใจหายนี้จะต้องมาถึง

แต่หัวใจของชาวไทยที่จงรักภักดีต่อ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของปวงชนชาวไทย

ยังทำใจยอมรับไม่ได้

วันนี้ปวงชนชาวไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งน้อมถวายความจงรักภักดีอย่างสูงสุด

เมื่อขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระมหาพิชัยราชรถที่อัญเชิญพระบรมโกศทองใหญ่ประดิษฐานในบุษบก มาถึง

แม้แสงแดดจะร้อนระอุแผดเผา หรือ สายฝนเย็นฉ่ำจะตกกระหน่ำนองพื้น

ชาวไทยหมอบกราบถวายความเคารพพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้ายด้วยหัวใจสลายน้ำตาอาบใบหน้า

 

ขบวนพระราชอิสริยยศ พระบรมโกศทองใหญ่ประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ พระเมรุมาศ และพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ทุกขั้นตอนตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำคืนจะติดตราตรึงในหัวใจชาวไทยตลอดไป

 
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งปวงของพระมหากษัตริย์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ความรักของพระองค์ที่พระราชทานแก่พสกนิกรของพระองค์ตลอดเวลาอันยาวนานในรัชกาลของพระองค์ไม่มีวันจะลบออกจากหัวใจประชาชนชาวไทย

จากวันนี้เป็นต้นไป เป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทยที่จะปฏิบัติหน้าที่พลเมืองที่ดีเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์

เราจะรักรวมใจกันเป็นหนึ่งไม่แตกแยก

เราจะมองไปในอนาคตข้างหน้าด้วยความหวังร่วมกัน

เราจะช่วยกันนำประเทศไทยให้ก้าวไกลไปข้างหน้า

เราจะอดทนและขยันทำงานหนักขึ้นเพื่อความเจริญของประเทศไทย

เราจะไม่เห็นแก่ตัวเอาเปรียบผู้อื่นเพื่อความสุขสบายของตัวเอง

เราจะใส่ใจในความทุกข์ยากของเพื่อนพี่น้องร่วมชาติ

เราจะสัตย์ซื่อต่อตัวเองและประเทศชาติ

เราจะน้อมนำทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์มาปฏิบัติอย่างจริงใจและจริงจัง

เราจะทำให้ศาสตร์ของพระราชาเป็นรูปแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ผู้นำทั้งโลกจะนำไปปฏิบัติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก

เราจะนำน้ำใจไทยที่เกื้อกูลต่อกันกลับมาอยู่ในสังคมไทย

เราจะทำให้การแก่งแย่งกลายเป็นการแบ่งปัน

เราจะทำให้ความชิงชังกลายเป็นความชื่นชม

เพื่อพระราชปณิธานอันสูงสุดของพระองค์จะเป็นจริง

 

สมชัย ศิริสุจินต์

๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
 
ขอบคุณภาพ จาก คมชัดลึก เดลินิวส์