“My child, pay attention and listen to my wisdom and
insight.
Then you will know how to behave properly, and your words will show that you have knowledge.” Proverbs 5:1-2
Then you will know how to behave properly, and your words will show that you have knowledge.” Proverbs 5:1-2
ผมหยุดเขียนบทความไปเป็นเดือน
เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ ความคิดเห็นของคนในสังคมไทยแตกแยก ไม่อยากให้บทความที่เขียนทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกว่าเขียนเข้าข้างใคร
เพราะเรื่องที่เขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นผู้นำ แต่ถ้าจะให้รอก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกกี่วัน
กี่เดือน วันนี้จึงตัดสินใจเขียนเรื่องผู้นำต่อไป ท่านอ่านแล้ว
จะคิดไปโยงกับผู้นำคนไหนเป็นเรื่องของท่าน ผมเขียนบนพื้นฐานบริบทความเป็นผู้นำที่ยอมรับกันในระดับสากล
ไม่ได้เขียนตามบริบทของประเทศไทยในเวลานี้
ผู้นำที่รู้จักพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาจะนำตนเองให้มีความเป็นผู้นำสูงขึ้นเรื่อยๆจนความเป็นผู้นำของตัวเขามีความเป็นเอกลักษณ์
มีความโดดเด่นชัดเจนมากขึ้น เป็นคุณลักษณะของผู้นำที่ผู้ติดตามยอมรับ
ทำให้มีผู้ติดตามมากขึ้นเพราะชื่นชอบประทับใจในคุณลักษณะประจำตัวของผู้นำ (People
follow you because what you are.) ซึ่งอาจเป็นหลักการ ความคิด
จุดยืน แนวทาง คำพูดและการประพฤติปฏิบัติของผู้นำที่แสดงออกอย่างเด่นชัด ต่อเนื่อง
คนจึงติดตามผู้นำเพราะเห็นว่าผู้นำได้ทำสิ่งที่เขาเห็นด้วย ได้ทำสิ่งที่เป็นเป้าหมายเดียวกับเขา
จึงให้การสนับสนุนและติดตามผู้นำ ผู้นำหลายท่านพัฒนาขึ้นเป็นผู้นำระดับสูงเพราะสามารถรักษาคุณลักษณะ
ที่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกว่าผู้นำคนอื่น
ด้วยเหตุนี้
ผู้นำจึงต้องระมัดระวังในการแสดงออกของตน เพราะคำพูด และการกระทำของผู้นำไม่ว่าจะเป็นเวลาใด
จะเป็นสื่อนำทำให้คนเข้าใจคุณลักษณะประจำตัวผู้นำและมีผลทำให้คนนิยมติดตามผู้นำ (People
follow you because what you represent) ผู้นำหลายคนสามารถรักษาความเป็นผู้นำระดับสูงของเขาได้อย่างยาวนาน
เพราะสิ่งที่เขาแสดงออก สิ่งที่เขาประพฤติไม่ได้ผิดจากความคาดหวังของผู้ติดตาม
ความนิยมชมชื่นในตัวผู้นำจึงยังคงอยู่ต่อเนื่อง แต่ก็มีผู้นำหลายคนเช่นกัน ที่ไม่สามารถรักษาความเป็นผู้นำระดับสูงของเขาไว้ได้ยาวนาน
เพราะการแสดงออกและการประพฤติของเขาไม่เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ติดตาม ความนิยมชมชอบในตัวผู้นำลดลง
ทำให้ความเป็นผู้นำระดับสูงของผู้นำลดต่ำลงด้วย ผู้นำจึงต้องสามารถนำตนเองก่อนไปนำคนอื่น
(Lead yourself before leading others.) ถ้านำตนเองไม่ได้เมื่อใด
ก็นำคนอื่นไม่ได้เมื่อนั้น
การที่ผู้นำสามารถพัฒนาการนำของตนให้อยู่ในระดับสูงขึ้นเรื่อยๆจะมีผลต่อการนำของผู้นำมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
เพราะการนำในระดับสูงมากขึ้นมีผลต่อความเป็นผู้นำหลายประการ ดังที่ John
C. Maxwell กล่าวว่า
The higher you go, the greater
your success.
ยิ่งก้าวสู่การเป็นผู้นำในระดับที่สูงขึ้นโอกาสแห่งความสำเร็จยิ่งมีมากขึ้น
เพราะความเป็นผู้นำสูงมากขึ้น ทำให้อำนาจและบารมีของผู้นำมีมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อจำนวนผู้ติดตามมีมากขึ้น
ผู้นำมีพลังมากขึ้น เนื่องจำนวนคนที่ติดตามมากขึ้นคือทรัพยากรที่มีคุณค่าที่จะทำให้การนำของผู้นำระดับสูงประสบความสำเร็จมากขึ้น
ความหลากหลายของคนติดตามจะกลายเป็นความแข็งแกร่งของผู้นำ
The higher you go, the easier you
lead.
ยิ่งก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำระดับสูงมากขึ้น
การนำของผู้นำง่ายขึ้น เพราะผู้ติดตามมีความชื่นชมศรัทธาในตัวผู้นำมากอยู่แล้ว
การที่ผู้นำจะชี้ทิศทางให้ผู้ติดตามทำตามจึงได้รับการตอบรับตอบสนองอย่างโดยพลัน
ได้รับความร่วมมือสนับสนุนเป็นอย่างดี ทำให้งานสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากการเป็นผู้นำระดับกลางที่คนมีข้อสงสัย
ไม่ร่วมมือ หรือต่อต้านเพราะยังไม่มั่นใจความสามารถในการนำของผู้นำ เมื่อผู้นำจะคิดหรือทำอะไรจึงมีข้อสงสัย
ทักท้วงหรือต่อต้านค่อนข้างมาก
The higher you go, the lesser
people you have.
สิ่งที่ผู้นำต้องระมัดระวังประการหนึ่งคือ
เมื่อเดินขึ้นสู่ความเป็นผู้นำระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ คนใกล้ตัวที่พร้อมจะร่วมรับผิดชอบ
ร่วมเป็นร่วมตายกับคุณจะเหลือน้อยลง เพราะคนที่ติดตามเดินตามคุณมาถึงระดับหนึ่งเขารู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จ
ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาเดินมาถึงจุดหมายแล้ว
เขาไม่มีความประสงค์จะเดินต่อไปอีกแล้ว เขามีความพอใจและต้องการหยุดอยู่แค่นั้น
ไม่ต้องการเหนื่อยยากในการปีนขึ้นสู่ที่สูงมากขึ้นอีกแล้ว ไม่ต้องการจะเสี่ยงกับอนาคตของผู้นำอีกต่อไปคนส่วนหนึ่งจะค่อยๆถอยออกไป
ผู้นำจะเหลือคนที่จะลุยในระดับสูงมากขึ้นต่อไปน้อยลง
The higher you go, the longer it
takes.
เมื่อผู้นำก้าวขึ้นระดับสูงมากขึ้น ความยากของการนำจะยากขึ้นเรื่อยๆเพราะผู้นำต้องทำสิ่งที่ท้าทายการนำของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ
เป้าหมายใหญ่ขึ้น ยากขึ้น มีความซับซ้อนมากขึ้น ต้องใช้คน ใช้เงิน ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
ใช้ทรัพยากรหลากหลายมากขึ้น การนำของผู้นำไปสู่ความสำเร็จจึงต้องใช้เวลามากขึ้นด้วย
The higher you go, the higher
level of commitment.
และเมื่อผู้นำระดับสูงต้องทำสิ่งที่ยากมากขึ้น
ซับซ้อนมากขึ้น ต้องใช้เวลาในการนำที่ยาวมากขึ้น ต้องใช้ทรัพยากรหลากหลายมากขึ้น
ผู้นำจึงต้องมีความผูกพันทุ่มเทให้กับสิ่งที่ต้องทำในระดับสูงขึ้น เพราะผู้นำต้องใช้ทรัพยากรทุกชนิด
ใช้กำลังสติปัญญา ความรู้ความสามารถทุกรูปแบบ และต้องมีความใส่ใจมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น
ผู้นำไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้อีกเนื่องจากผู้ติดตามมีความคาดหวังต่อความสำเร็จของผู้นำสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
The higher the level, the deeper
commitment.
ในทำนองเดียวกัน ผู้นำที่อยู่ในระดับสูงมากขึ้น
ย่อมมีพันธะ ความรับผิดชอบที่ลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรื่องที่ทำเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้น
เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากขึ้น เป็นเรื่องที่มีมูลค่ามากขึ้น
ใช้คนและทรัพยากรมากขึ้น และมีความเสี่ยงมากขึ้นด้วย มิติความรับผิดชอบจึงไม่ใช่มีเพียงมิติด้านกว้างแต่เพียงประการเดียว
แต่มีมิติด้านลึกที่เข้าผูกพันด้วย เพราะความรับผิดชอบของผู้นำสูงมากขึ้น การทุ่มเทจึงต้องลงลึกสุดตัว
นอกจากนี้
ความสำเร็จของผู้นำยังผูกโยงกับหลายสิ่ง ดังนั้นผู้นำระดับสูงจึงต้องคอยเตือนตนเองเสมอว่า
Never leave the level below you.
อย่าทอดทิ้ง หรือดึงตัวห่างจากคนในระดับล่าง
เพราะผู้นำอยู่ได้ด้วยคนระดับล่างลงไปเป็นฐานมั่นในการยึดตัวผู้นำให้คงอยู่
เมื่อใดที่ผู้นำปล่อยให้ตัวเองหลุดจากการยึดของผู้ติดตามระดับล่างลงไป
ตัวผู้นำจะลอยห่างจากฐานยึดของตน และกลายเป็นผู้นำที่โดดเดี่ยวและล้มเหลวในที่สุด
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเสมอ เมื่อผู้นำปล่อยให้เรื่องอื่นเข้ามาแทรกตารางชีวิตจนทำให้ไม่มีเวลาอยู่ใกล้กับผู้ติดตามระดับถัดไป
ความสัมพันธ์ที่เริ่มห่างไป การสื่อสารที่ไม่ถึงกันอย่างทันเวลา ทำให้เกิดช่องว่าง
เกิดปัญหาขึ้น และทำให้การนำของผู้นำมีปัญหาตามมาในที่สุด
Work to carry other leaders up
with you.
สิ่งที่ผู้นำระดับสูงต้องทำคือต้องดึงผู้ติดตามระดับถัดไปให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้วย
เพราะการนำของผู้นำจะเข้มแข็ง และยืนนานได้
ต้องมีผู้นำระดับถัดไปเข้ามาเสริมการนำของตน เนื่องจากการนำในระดับสูงขึ้น เป้าหมายท้าทายมากขึ้น
งานยากขึ้น งานมีความสำคัญมากขึ้น ผู้นำจึงต้องมีผู้นำในระดับถัดไปเข้ามาร่วมการนำและร่วมรับผิดชอบทำให้งานสำเร็จอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
ยิ่งผู้นำระดับสูงมีผู้นำระดับรองในทีมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำงานได้มากขึ้น
ความสำเร็จในการนำจะมีมากขึ้น
Henry Ward
Beecher กล่าวว่า “Hold yourself responsible for a higher
standard than anybody expects of you. Never excuse yourself.” ทำตัวคุณให้มีความรับผิดชอบที่มีมาตรฐานขั้นสูงกว่าที่คนอื่นคาดหวังจากคุณ
อย่ามีข้อแก้ตัว
เพราะการเป็นผู้นำต้องห่วงใยคนอื่น
(Care
of people) ก่อนห่วงใยตนเอง เนื่องจากหัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำคือการทำเพื่อคนอื่นไม่ได้ทำเพื่อตนเอง
การนำของผู้นำระดับสูงจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่ตัวผู้นำเป็นผู้ตัดสิน
แต่ผู้ติดตามผู้นำต่างหากเป็นผู้ตัดสินว่าผู้นำระดับสูงประสบความสำเร็จในการนำหรือไม่
(“It is the followers, not the leader or someone else who determines if
the leader is successful.) และเช่นกันที่ผู้ติดตามเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าผู้นำระดับสูงที่เขาติดตามอยู่มีค่าควรแก่การติดตาม
(Worth to follow) อีกต่อไปหรือไม่
ขอสรุปลงท้ายว่า
ผู้นำระดับสูงต้องรู้จักตนเองอยู่ตลอดเวลาด้วยการเข้าใจตนเองอย่างสัตย์ซื่อ (Honest
understanding) ไม่ลำเอียงเข้าข้างตนเอง ประเมินตนเองอยู่เสมอว่า
เราเป็นใคร (Who you are?) เรารู้อะไรบ้าง (What you
know?) เราสามารถทำอะไรได้บ้าง (What you can do?) และเราทำเพื่ออะไร (What I do for?) เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงทาง
เพราะถ้าตัวผู้นำเองยังหลงทางก็ไม่สามารถนำใครได้แล้วครับ